หุ้นวิชั่น – บล.เอเซียพลัส ประเมินหุ้นหลังจาก วานนี้ สภาพัฒน์เผยตัวเลข GDP Growth ของไทย 4Q67 +3.2%YoY (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.8%YoY) และ+0.4%QoQ (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 0.5%QoQ) ทำให้ตลอดทั้งปี 2567 ขยายตัว +2.5%YoY (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.7%YoY)
เศรษฐกิจไทยปี 2567 เร่งตัวจากปี 2566 โดยมีแรงหนุนเด่นๆ มาจากการบริโภคภาคเอกชน (+4.4%YoY), การลงทุนภาครัฐ (+4.8%YoY), การใช้จ่ายภาครัฐ (+2.5%YoY), การส่งออก (+4.4%YoY) ขณะที่การลงทุนเอกชนหดตัว (-1.6%YOY)
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป สศช. ประเมินว่าจะขยายตัว 2.8% (2.3 – 3.3%) ด้วย ปัจจัยหนุนของการบริโภคภาครัฐ-เอกชนเพิ่มขึ้น บวกกับการท่องเที่ยวฟื้นตัว และการส่งออกสินค้าขยายตัว
เศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในภาวะที่ขยายตัวได้ดี พร้อมกับมีนโยบายการคลังช่วยขับเคลื่อน โดยรัฐบาลมีการเร่งรัด มาตรการทางเศรษฐกิจทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณ และเร่งรัดการลงทุน ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯ จะเป็นแรงผลักให้เงินเฟ้อพุ่งสูง ทำให้สภาพัฒน์มีความเห็นสอดคล้องกับ กนง. หนุนแนวทางการ “คงดอกเบี้ย” เพื่อเก็บกระสุนนโยบายการเงินรับความผันผวน พร้อมกับหวั่นว่าการเร่งลดดอกเบี้ยสวนทางกับ Fed จะทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยไทย-สหรัฐฯ และตามาด้วยเงินบาทอ่อนค่า
ขณะที่ล่าสุด BOND YIELD 10Y ของไทย ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.29% ซึ่งสูงว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% สะท้อน มุมมองตลาดฯ ว่าอาจเห็นการคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุม กนง. วันที่ 26 ก.พ. นี้
ในแง่มุมของตลาดหุ้นไทยปัจจุบันมีขนาด Market Cap SET อยู่ที่ 15.66 ล้านล้านบาท ส่วน Nominal GDP ปี 2567 อยู่ที่ 18.58 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน Market Cap ต่อ GDP อยู่ที่ 0.84 เท่า ซึ่งอยู่บริเวณช่วงวิกฤตโควิด19 และอยู่ในระดับต่ำกว่า 2 S.D. สะท้อนถึง Valuation ต่ำมาก และอาจสัญญาณเชิงบวกปรากฏขึ้น
แนะนำหุ้น พื้นฐานดี ราคาถูกลงเยอะ CPALL, BDMS, IVL, SCGP, MINT, LH, HMPRO, AP, MTC