หุ้นวิชั่น – บล.กรุงศรี ประเมินจากการที่ กกพ.ได้ดำเนินการให้บริการอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียวแบบผู้ใช้ ไฟฟ้าไม่เจาะจงแหล่งที่มา หรือ UGT1 ครั้งแรกในเดือน มค.2025 โดย ร่วมกับกฟผ. กฟน. และ กฟภ. เพื่อรองรับปริมาณความต้องการ โดยเตรียมปริมาณรวม 2,000 ล้านหน่วยต่อปี หรือประมาณ 1,135MW โดยได้กำหนดอัตราอยู่ที่หน่วยละ 4.21 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 6 สต. จากอัตราค่าไฟฟ้าปกติในปัจจุบัน ที่จะเก็บจากผู้ที่ใช้ไฟฟ้า UGT1 เท่านั้น และยังเตรียมการออกเอกสารรับรองไฟฟ้าสะอาดและแหล่งที่มาหรือ I-REC ปัจจุบันมีผู้ติดต่อลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้บริการแล้ว 600 ล้านหน่วยหรือ 340 MW
ฝ่ายวิจัยมองข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ในการปลดล็อคการเติบโตของผลประกอบการในอนาคตได้ อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมองว่าคงต้องรอ UGT2 ก่อน ซึ่งจากการชนะประมูลพลังงานหมุนเวียนรอบแรกที่5.2 GW GULF ได้ประโยชน์มากที่สุด คง Neutral สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้า
ฝ่ายวิจัยจึงมองโรงไฟฟ้าที่ชนะการประมูล renewable energy รอบแรก 5.2GW ซึ่งหลักๆ จะเป็น GULF จะได้ประโยชน์มากที่สุด ขณะที่ BGRIM และ GPSC และเจ้าอื่นๆจะมีสัดส่วนน้อยมากในการประมูลรอบแรก
ทั้งนี้ เพราะ UGT2 จะให้อายุสัญญาที่ยาวกว่าคือ 10 ปี เทียบกับ UGT1 เพียงแค่ 1 ปี และอัตราค่าไฟจะสูงกว่าหรืออยู่ที่ประมาณ 4.55-4.56 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะยิ่งช่วย เพิ่มรายได้ให้หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าได้
สำหรับกลุ่มลูกค้า UGT ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Data Center ธุรกิจการเงิน การผลิต ห้างสรรพสินค้า อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี คาดว่าต่อไปจะเปิดให้บริการไฟฟ้าสีเขียวแบบเจาะจงแหล่งที่มาหรือ UGT2 ในช่วงกลางปี 2025 และคาดว่ารอดูการเปิด Direct PPA 2,000MW เพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลัง 2025