ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

เคาะ 15 หุ้น รับอานิสงส์ Data Center -AI

              หุ้นวิชั่น – บล.กรุงศรี ประเมินในงานสัมมนาครบรอบ 50 ปีของ MFC ประเด็นหลักๆ เน้นไปที่โอกาสของอาเซียนและไทยในการต่อยอดอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในอนาคต ภาพใหญ่ทาง McKinsey ประเมิน 6 กลุ่มอุตสาหกรรมที่จะมีบทบาทสำคัญ ได้แก่

1.) E-Commerce
2.) Digital Advertising
3.) Video Games
4.) Modular Construction (เทคโนโลยีก่อสร้างที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความเร็ว และจำกัดผลกระทบสิ่งแวดล้อม)
5.) Semi-conductor
6.) EVs ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของ GDP โลก

              โดยไทยดูมีโอกาสในส่วนการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนเรื่องอื่นๆ มีความจำเป็นที่อาเซียนและไทยต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้

              ส่วนการปรับตัว อดีตนายกฯ ทักษิณฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์เพิ่มเติม เน้น 2 ส่วน คือ โอกาสในการเป็นศูนย์กลางโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี โดยชูจุดเด่นที่ ประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องมีค่าไฟฟ้าที่ต่ำ เพื่อเป็นแรงดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ โดยขณะนี้ทั่วโลกมีต้นทุนพลังงานอยู่ที่ราว 2 เซนต์ (ดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 0.67 บาท ในขณะที่ต้นทุนพลังงานของไทยอยู่ที่ 11 เซนต์ หรือราว 3.7 บาท ซึ่งในเบื้องต้นตั้งใจอยากให้ลดได้เหลือราว 8 เซนต์ หรือราว 2.7 บาท ซึ่งต่ำกว่าระดับที่นักลงทุนต่างชาติมองว่าเหมาะสมที่ 6-7 เซนต์

              ทั้งนี้ เบื้องต้นตั้งเป้าหมายที่อยากเห็นค่าไฟฟ้าลดเหลือ 8 เซนต์ภายในปี 2569 นอกจากนี้ยังเน้นไปที่โอกาสในการนำ AI ต่อยอดในธุรกิจต่างๆ ที่เป็นจุดเด่นของไทย เช่น การแพทย์

              อยากปรับไทยให้เป็นศูนย์กลางการเงิน “ศูนย์กลางทางคริปโต และบล็อกเชน” โดยคาดว่าใน 2-3 เดือนข้างหน้า จะเห็นการทำ Sandbox รับเงินคริปโตในจังหวัดภูเก็ต และการออก Stable Coin โดยมีพันธมิตร คือ รัฐบาลไทยเป็นหลักประกัน

  • เชิงกลยุทธ์ เราประเมินโอกาสระยะกลาง-ยาวที่ไทยจะสามารถสร้าง S Curve ใหม่ๆ ยังมีอยู่ แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาบ้าง ยานยนต์ต้องสร้างสมดุลการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปสู่ EVs ซึ่งในช่วงรอยต่อนี้อาจจะขาดตัวเลือกลงทุนที่น่าสนใจ และแนะนำให้ติดตามพัฒนาการต่อไป ก่อนที่จะเป็นศูนย์กลาง Financial Assets ใหม่ๆ

ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักไปที่การเติมสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจระยะสั้น แต่การต่อยอดให้เป็นอุตสาหกรรมใหม่ระยะยาว ต้องรอติดตามแผนการผลักดันอีกครั้ง

  • Data Center เป็นจุดที่ฝ่ายวิจัยประเมินว่ามีโอกาสที่ดี โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าไทยสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในส่วนนี้ได้มากพอสมควร แม้การเปลี่ยนแปลงค่าไฟฟ้าจะค่อยเป็นค่อยไป แต่ยังมีจุดเด่นอื่นๆ เช่น การมีพื้นที่ศูนย์กลางในอาเซียน และความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม หากการปรับค่าไฟฟ้าสามารถทำได้ ก็จะมีการดึงเม็ดเงินต่างชาติอย่างต่อเนื่องอีกหลายปี

นอกจากนี้การส่งสัญญาณนำ AI ต่อยอดธุรกิจ คาดว่าอุตสาหกรรม/บริษัทที่ปรับตัวได้เร็วในเรื่องนี้ จะได้รับการสนับสนุนจากตลาดในทางบวกมากขึ้น โดยจากการศึกษาของฝ่ายวิจัย พบว่า อุตสาหกรรมที่น่าจะปรับตัวได้เร็ว คือ ธนาคาร, การเงิน, ค้าปลีก, การแพทย์ และภาคผลิต

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าว เราประเมินจิตวิทยาบวกในกลุ่มต่างๆ ได้แก่

              1.) กลุ่มที่อยู่ในธีม Infra Tech ได้แก่ สื่อสาร ADVANC, TRUE, นิคม WHA, AMATA, รับเหมางาน Data Center + Digital Tech เช่น INSET ซึ่งในระยะสั้นน่าสนใจขึ้นหลังจากเริ่มปรากฏชื่อการจ้างผู้รับเหมางาน Data Center หลักๆ ในประเทศที่ประกาศลงทุนตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งลำดับถัดไปน่าจะเป็นการเร่งจ้างผู้รับเหมาช่วง โดย INSET น่าจะอยู่ในกลุ่มดังกล่าว และ BBIK (ตั้งรับ) ส่วนโรงไฟฟ้าแม้ในระยะกลาง-ยาวจากโอกาสขยายกำลังผลิตรองรับ แต่ในระยะสั้นอาจต้องรอหุ้นตอบรับประเด็นลบจากแนวทางลดค่าไฟที่อาจกลับมากดดันหุ้นอีกครั้ง

              2.) กลุ่มที่มีโอกาส AI Adoption ในอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ธนาคาร เช่น KBANK, KTB, การเงิน เช่น MTC, ค้าปลีก เช่น CPALL, CPAXT, การแพทย์ เช่น BDMS, BCH และภาคผลิต เช่น SCC, SCGP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

BH บวก 3.16% กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์เก็บหุ้นเพิ่ม

BH บวก 3.16% กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์เก็บหุ้นเพิ่ม

“โกลเบล็ก” ชี้หุ้นไทย Rebound  คัด 5 หุ้น อัตราปันผลสูง - เช็กเลย!

“โกลเบล็ก” ชี้หุ้นไทย Rebound คัด 5 หุ้น อัตราปันผลสูง - เช็กเลย!

เอเซียพลัส คัด 3 หุ้นเด่น เช็ก!

เอเซียพลัส คัด 3 หุ้นเด่น เช็ก!

ฟินันเซีย ชู BA เด่น แนะ “ซื้อ” เป้า 30 บ.

ฟินันเซีย ชู BA เด่น แนะ “ซื้อ” เป้า 30 บ.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด