หุ้นวิชั่น – นักวิเคราะห์ ชี้หลักเกณฑ์ใหม่ IPO ปี68 ดันตลาดคึกคักขึ้น อานิสงส์มาตรการคัดกรองบริษัทคุณภาพ ลดความเสี่ยงนักลงทุน ด้านสำนักงานก.ล.ต.เผยตั้งแต่ต้นปี มี IPO ระดมทุน 2 หลักทรัพย์ มูลค่ารวม 540.40 ล้านบาท ขณะที่คำขอ IPO ที่ได้รับอนุมัติแล้วมี 10 บริษัท และอยู่ระหว่างพิจารณาอีก 16 บริษัท พร้อมกันนี้ ตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนยังร้อนแรง ออกตราสารหนี้ระยะยาวกว่า6.5หมื่นลบ.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ สำนักงาน ก.ล.ต. รายงานสรุป ภาวะตลาดทุนเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 มีการระดมทุนเสนอขาย IPO จำนวน 2 หลักทรัพย์ มูลค่ารวม 540.40 ล้านบาทโดยมีคำขอที่ได้รับอนุญาตและพร้อมเสนอขาย 10 หลักทรัพย์ อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอ 16 หลักทรัพย์และอยู่ระหว่าง Pre-consult 56 หลักทรัพย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการระดมทุนผ่านตลาดทุนต่อเนื่องสำหรับการระดมทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล มีคำขออนุญาต จำนวน 1 บริษัท และอยู่ระหว่างการพิจารณา 2 บริษัทและมีคำขอ ICO อยู่ระหว่าง Pre-consult 5 บริษัท (ผลรวมสะสมการระดมทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งสิ้น 3 บริษัท มูลค่า 5,065.23 ล้านบาท)
การระดมทุนผ่าน Crowdfunding ในปี 2567 (1 ม.ค. – 31 ม.ค. 68) มีบริษัทที่ดำเนินการสำเร็จแล้ว 32 บริษัท มูลค่ารวม 146.38 ล้านบาท (ผลรวมสะสมการระดมทุนผ่าน Crowdfunding มูลค่า 16,404.02 ล้านบาท) การเสนอขายหลักทรัพย์วงแคบของ SME (1 ม.ค. – 31 ม.ค. 68) มีผลรวมสะสมจนถึงปัจจุบัน 29 บริษัท มูลค่า 1,303.24 ล้านบาทและการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ของ SME จำนวน 1 บริษัท โดยมีมูลค่าเสนอขาย 12.80 ล้านบาท (มีผลรวมสะสมจนถึงปัจจุบัน 7 บริษัท มูลค่าเสนอขายรวม 287.50 ล้านบาท) สำหรับตราสารหนี้ภาคเอกชน มีการออกตราสารหนี้ระยะยาวมูลค่า 65,244.60 ล้านบาทแบ่งเป็นตราสาร Investment Grade 60,605.80 ล้านบาท และ High Yield Bond 4,638.80 ล้านบาท (1 ม.ค. – 31 ม.ค. 68) ตั้งแต่ต้นปี 67 มีการออกเสนอขายตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนแล้ว (1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 67)จำนวน 15 บริษัท มูลค่า 184,550.32 ล้านบาท (ผลรวมสะสม 39 บริษัท มูลค่า 901,013.58 ล้านบาท) สำหรับกองทุนรวม (ม.ค. – ก.พ. 2568) มีการเสนอขาย IPO จำนวน 133 กองทุน มูลค่ารวม 271,045 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการเสนอขายกองทุนรวมประเภทตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในประเทศสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีบริษัทที่อยู่ระหว่างการพิจารณา IPO จำนวน 16 บริษัท ได้แก่
หมวดเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
-
- บมจ. สยาม ดีเสิร์ท ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า TENG1
- บมจ. แพลททินัม ฟรุ๊ต ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า PTF
หมวดบริการ
-
- บมจ. จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า GMM
- บมจ.พี เอ อี เทคนิคอล เซอร์วิส ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า PTS
- บมจ. ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า ONSENS
หมวดสินค้าอุตสาหกรรม
-
- บมจ. สมาร์ททีทีซี ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า STTC
- บมจ. แมสเทค ลิ้งค์ ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า MASTEC
หมวดทรัพยากร
-
- บมจ. บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า ATLAS
- บมจ. บริษัท วัน พาวเวอร์ ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า ONE
หมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
-
- บมจ. เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า MMM
- บมจ. ไทยประเสริฐกรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรส์ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า TPG
หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค
-
- บมจ.แกรนด์ คอส กรุ๊ป ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า MER
- บมจ. นูทริชั่น โปรเฟส NUT
- บมจ. 88(ไทยแลนด์) ใช้ชื่อย่อหุ้นยว่า 88TH
หมวดธุรกิจการเงิน
-
- บมจ. ซิลค์สแปน ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า SILK
หมวดเทคโนโลยี
-
- บมจ. อินดิจี ใช้ชื่อย่อหุ้นว่า IDG
ส่วนบริษัทที่ อนุมัติคำขอIPO แล้ว มี 10 บริษัท ได้แก่
หมวดบริการ
-
- บมจ. มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. โฮลติ้ง (ประเทศไทย) ใช้ชื่อย่อว่า MRDIYT
- บมจ. สกิลเลน เทคโนโลยี ใช้ชื่อย่อว่า SKILL
- บมจ. โรงพยาบาลมุกดาหาร อินเตอร์เนชั่นแนล ใช้ชื่อย่อว่า HANN
- บมจ. แอลทีเอ็มเอช ใช้ชื่อย่อว่า LTMH
หมวดสินค้าอุตสาหกรรม
-
- บมจ. วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) ใชชื่อย่อหุ้นว่า YSS
หมวดอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง
-
- บมจ. บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรู๊ป ใช้ชื่อย่อว่า BKA
หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค
-
- บมจ.พีเคเอ็น อินเตอร์โฮลดิ้ง ใช้ชื่อย่อว่า IGNITE
- บมจ. สกิน ลาบอราทอรี่ ใช้ชื่อย่อว่า SKIN
หมวดธุรกิจการเงิน
-
- บมจ. เงินเทอร์โบ ใช้ชื่อย่อว่า TURBO
หมวดเทคโนโลยี
-
- บมจ. บลู โซลูชั่น ใช้ชื่อย่อว่า BLUE
นายมงคล พ่วงเภตรา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มองว่า ปี 2568 จะเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของตลาด IPO หลังจากตลาดหลักทรัพย์ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนทั้งใน SET และ mai ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน
หลักเกณฑ์ใหม่ที่เข้มงวดขึ้นจะทำหน้าที่คัดกรองให้เฉพาะบริษัทที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งและมีผลประกอบการที่ดีเข้าสู่ตลาด ส่งผลให้คุณภาพโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมา การลงทุนในหุ้น IPO หลายกรณีไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดี หรือราคาหุ้นหลังเข้าตลาดต่ำกว่าราคาจองซื้อ ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายหุ้น IPO ลดความคึกคักลง
สำหรับบริษัทจดทะเบียน นายมงคลระบุว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จำนวนบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในปีนี้ คาดว่าตลาด IPO จะกลับมาเปิดโอกาสอีกครั้ง เนื่องจากบริษัทที่ต้องการเข้าตลาดต้องมีคุณภาพสูงขึ้น ขณะที่หลักเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นจะทำให้การกำหนดราคา IPO เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยุติธรรมมากขึ้น
“ที่ผ่านมา มีบางบริษัทที่เข้าตลาดเพื่อ Exit หรือจดทะเบียนแล้วไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก แต่ด้วยหลักเกณฑ์ใหม่ การเข้าตลาดหลักทรัพย์จะเป็นไปเพื่อการเติบโตอย่างแท้จริงของบริษัท และสร้างประโยชน์ให้แก่นักลงทุนมากขึ้น” นายมงคลกล่าว
รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการ Hoon vision