หุ้นวิชั่น – ฝ่ายวิจัยมองเป็นบวกเล็กน้อยจากยอดจองรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นดี โดยเฉพาะยอดจองรถ EV จากค่ายรถยนต์จีนที่เพิ่มขึ้นมาก (แต่ผลกระทบต่อหุ้นใน SET จำกัด)
ส่วนค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นยังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี ดังนั้นเราประเมินว่าจะส่งผลบวกต่อยอดขายรถยนต์ในประเทศตั้งแต่ เม.ย.2025 จะเริ่มทรงตัวได้จากที่ลดลงมากต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2024 และ 2H25E มีโอกาสกลับมาเติบโตได้จากฐานต่ำปีก่อน โดยการผลิตรถยนต์ BEV จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าตามเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการภาครัฐ
ซึ่งจะทำให้ยอดผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศในปี 2025 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ ส.อ.ท. ประเมินไว้ที่ 5.0 แสนคัน +8% YoY
ทั้งนี้ ยังประเมินยอดผลิตรถยนต์ปี 2025 ที่ 1.45-1.50 ล้านคัน ทรงตัว YoY อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่ยอดผลิตรถยนต์จะทำได้ต่ำกว่าเป้า จากการส่งออกรถยนต์ที่เริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะจากประเด็นสงครามการค้า ทำให้ประเทศคู่ค้าระมัดระวังการใช้จ่าย
กลุ่ม Automotive ยังให้น้ำหนัก underweight ไม่มี top pick โดย SAT (ถือ/เป้า 12.00 บาท) เราประเมิน SAT กำไรปี 2025E จะทรงตัวตามยอดผลิตรถยนต์
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากยอดผลิตรถกระบะที่เป็นฐานลูกค้าหลักของ SAT ยังมีโอกาสลดลงจากปัจจัยเสี่ยงทั้งด้านยอดขายรถยนต์ในประเทศยังอาจฟื้นตัวช้า และการส่งออกมีโอกาสชะลอตัวกว่าคาด ขณะที่อาจมีปัจจัยบวกทดแทนจากรายได้กลุ่มชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรที่ดีขึ้น ยอดจองรถ EV ของจีนที่เพิ่มขึ้นมากยังมีผลบวกต่อหุ้นใน SET ค่อนข้างน้อย
โดยเราประเมินยังไม่มีหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรง แต่จะมีผลบวกต่อหุ้นใน SET บางส่วน ได้แก่ หุ้นกลุ่มนิคมฯ (WHA, AMATA) จะมีการเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับ supply chain เข้ามาต่อเนื่องตามผู้ผลิตรถยนต์ EV และ SJWD ที่จะมีการรับงานให้บริการด้านโลจิสติกส์สำหรับรถ EV เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นไม่เกิน 10% มาจากบริการโลจิสติกส์ขนส่งรถยนต์ ขณะที่ทั้งกลุ่มนิคมฯ และ SJWD จะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านสงครามการค้ามากกว่า