หุ้นวิชั่น- การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันแรก ก็เผ็ดร้อนพอหอมปากหอมคอ ทุกคำของทุกท่านในสภาล้วนแต่ ให้เหตุผลว่า ทำเพื่อประชาชน เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่เท่าที่รับฟังประเด็นเนื้อหา การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติ ดูน้อยไปหน่อย ทั้งที่ เป็นปัญหาเร่งด่วนของประเทศไทยยามนี้
น้ำหนักการอภิปราย ส่วนใหญ่พุ่งเป้าตัว นายกรัฐมนตรี เป็นหลัก หักล้างช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง โดยใช้ประชาชน เป็นตัวประกัน แล้วเช่นนี้ ประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้อย่างไรกัน
ในกรณีที่เลวร้ายสุดจากการอภิปรายรอบนี้ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่า คือรัฐบาลประสบอุบัติเหตุทางการเมืองหลังจากจบการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี อาจส่งผลให้ SET Index ปรับตัวลงได้ โดยในที่นี้ทางฝ่ายวิเคราะห์ จะใช้สถิติในสมัยของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธเป็นหลัก เนื่องจากสมัยของคุณบรรหาร ศิลปะอาชา ระหว่างวันก่อนเริ่มอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีกับวันที่มีการยุบสภา มีระยะห่างที่ค่อนข้างสั้น และ SET Index ปรับตัวลงเพียง 0.23% จึงไม่ค่อยน่ากังวลมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับในสมัยของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ที่มีระยะห่างค่อนข้างยาวกว่าจะถึงวันลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ SET Index ปรับตัวลงถึง 10.77%
หุ้นรับมืออุบัติเหตุทางการเมือง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในหมวดธุรกิจ (Sector) ที่ยังเหลือรอด คือ Performance เป็นบวกจะประกอบด้วยชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON), ยานยนต์ (AUTO) และธุรกิจการเกษตร (AGRI) ตามลำดับ ทางฝ่ายจึงนำหมวดธุรกิจข้างต้น ( ตัดยานยนต์ออกเนื่องจากภาพธุรกิจที่ยังไม่สดใสนัก) ไปคัดเลือกหุ้นที่มีคะแนนรวมในเชิง Quantitative จาก CoreSight ของ PhillipResearch มากกว่า 60 คะแนน
พอร์ตหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการเมืองน้อย ประกอบด้วย SVI -TEAM-UVAN-UPOIC-TFM-TEGH-GFPTและNER
ด้านบล.เอเซียพลัส ได้ระบุว่า หุ้นใน SET100 ลงมาเร็ว ลงมาลึกจากจุดสูงสุดปีที่แล้วเฉลี่ย -34% จนมีหุ้นใน SET100 ถึง 39 ตัว ที่มี PBV < 1 และปัจจุบันเริ่มเห็นการประกาศซื้อหุ้นคืนจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT และนับตั้งแต่ต้นปี มีบริษัทต่างๆ ซื้อหุ้นคืนไปแล้วกว่า 4.8 พันล้านบาท
โดยได้ทำการค้นหาหุ้นที่มีโอกาสถูกซื้อหุ้นคืน พบว่ามีเข้าข่ายอยู่ 20 บริษัท ได้แก่ BANPU, EGCO, BGRIM, BCP, RCL, IRPC, TOP, HANA, PTT, CK, CKP, PTTGC, BCPG, GPSC, STGT, SCC, SIRI, SJWD, TU, SCGP
ขยับมาเกาะติดหุ้นในกลุ่มแบงก์กันบ้าง บล. ดาโอ วิเคราะห์ผลงานของกลุ่มแบงก์พบว่า สินเชื่อในเดือน ก.พ. 2025 กลับมาหดตัว โดยการลดลงส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อภาครัฐที่ลดลงจากปีงบประมาณ และสินเชื่อเช่าซื้อที่ยังลดลงตามยอดขายรถยนต์ที่มีการปรับตัวลดลง และจากกำลังซื้อชะลอตัว รวมถึงหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ทำให้กลุ่มธนาคารมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น แต่สินเชื่อรายใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้นได้ดี
ขณะที่คาดว่าสินเชื่อภาครัฐจะมี Momentum ที่เพิ่มขึ้นได้ในปีนี้ ตามความคาดหวังว่า จะมีโครงการใหญ่ๆของภาครัฐที่จะเพิ่มขึ้นได้ตามปีงบประมาณ
ทั้งนี้ ยังคงประมาณการการเติบโตของสินเชื่อรวมทั้งปี 2025 ของกลุ่มไว้ที่ +2% YoY (2M24 อยู่ที่ -0.8% YTD) ด้าน NPL คาดว่า มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่า จะทยอยเพิ่มขึ้นไม่น่ากังวลมากนัก เพราะแต่ละธนาคารมีการตั้งสำรองฯจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีการทยอยขายหนี้เสียออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาด NPL ในปี 2025E จะอยู่ที่ 3.18% จาก 3.05% ในปี 2024
เลือก KTB, TTB, BBL เป็น Top pick ขณะที่ BBL จะได้รับผลบวกจากสินเชื่อที่เติบโตได้สูงสุดในเดือน ก.พ. 25 ให้น้ำหนักการลงทุน เป็นหุ้นเด่น เพราะแนวโน้มการเติบโตของกำไรปี 2025E จะยังเติบโตได้ต่อเนื่องอีก +4% ขณะที่ valuation ยังมีความเสี่ยงต่ำ
ด้าน หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR เริ่มรุกหนัก เปิดร้าน Café Amazon Concept Store สาขาตวลโก๊ก (Toul Kork) ซึ่งถือเป็น Café Amazon ในรูปแบบ Concept Store แห่งแรกในประเทศกัมพูชา พร้อมก้าวสู่การเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงพนมเปญ รวมถึงเปิดสถานีบริการ PTT Station Neak Vorn (เนียกกะวอน) หนึ่งในสาขาสถานีบริการ Flagship
ปัจจุบัน Café Amazon มีสาขารวมกว่า 4,879 สาขาใน 11 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศกัมพูชามีจำนวนสาขามากเป็นอันดับ 1 มีจำนวนสาขารวม 254 สาขา และสาขานี้ถือเป็นลำดับที่ 254 การเปิด Concept Store แห่งแรกในกัมพูชานี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OR ในการนำพาแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
สำหรับสถานีบริการ PTT Station Neak Vorn (เนียกกะวอน) เป็นสถานีบริการในรูปแบบ Flagship ครบวงจร ตั้งอยู่ใจกลางกรุงพนมเปญ ที่นอกเหนือจากการให้บริการน้ำมันคุณภาพสูงตามมาตรฐาน Euro 5 แล้ว ยังได้รวมธุรกิจที่หลากหลายไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ Café Amazon ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ร้านสะดวกซัก Otteri และร้านอาหารต่าง ๆ เพื่อให้บริการที่ครบครันแก่ผู้บริโภคชาวกัมพูชา ปัจจุบันมีสถานีบริการ PTT Station ในกัมพูชาทั้งสิ้น 186 สาขา นี่คือ การเติบโตทางธุรกิจ ที่ชัดเจนของในต่างประเทศ บ้านหลังที่ 2 ของ OR
การลงทุน มีความเสี่ยง ผู้ลงทุน ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ
ข่าวหัวม่วง By ทีมงานหุ้นวิชั่น