หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.เอเซียพลัส ระบุว่า วานนี้ ครม. มีความเคลื่อนไหวมากมายเกี่ยวกับแรงกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโยบายต่างๆ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. ครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ก. เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. เพื่อสกัดการปั่นหุ้น และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนและความน่าเชื่อถือในตลาดทุน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ข้อ
(1) การเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและการกำกับดูแลการขายหลักทรัพย์โดยที่ยังไม่มีหลักทรัพย์อยู่ในครอบครอง (การขายชอร์ต)
(2) การยกระดับการทำหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน เพิ่มความเข้มแข็งของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน
(3) การกำหนดสิทธิของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้ครอบคลุมถึงการดำเนินการแทนผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย
(4) การรายงานข้อมูลการก่อภาระผูกพันในหลักทรัพย์ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.
(5) การเพิ่มมาตรการทางกฎหมายเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบการกระทำความผิดและยับยั้งความเสียหาย และการมอบหมายบุคคลอื่นจัดการทรัพย์สินที่ยึดอายัด
(6) การให้เจ้าหน้าที่ ก.ล.ต. เป็นพนักงานสอบสวนในคดี HIGH IMPACT
2. ครม. เคาะร่าง พ.ร.บ. ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งมีผู้เห็นด้วย 80% ยืนยันว่าเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศเป็นหลัก เน้นลงทุนเพื่อท่องเที่ยว-“คาสิโน” ไม่เกิน 10%
3. เร่งกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย โดยขยายฟรีวีซ่า (อยู่ระหว่างพิจารณา)
4. โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รัฐจ่ายคนละครึ่ง หวังกระตุ้นช่วง LOW SEASON – เร่งกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีน โดยมีแผนจะเสนอมาตรการนี้ให้ ครม. พิจารณาอนุมัติในเดือน มี.ค. 68 ซึ่งรายละเอียดเบื้องต้น
• วางกรอบไว้ที่ 1 ล้านสิทธิ จำกัด 10 สิทธิ์ต่อคน
• วงเงินสูงสุด 3,000 บาทต่อคืนต่อสิทธิ์ (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
• เป็นการใช้จ่ายในรูปแบบคูปองดิจิทัล แบ่งเป็นการสนับสนุน
• เมืองหลักในอัตรา 60:40 (ประชาชนจ่าย 60% รัฐจ่าย 40%)
• เมืองรองจะเป็นอัตรา 50:50 (รัฐจ่าย 50% ประชาชนจ่าย 50%)
และอาจมีการพิจารณาเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น การจองที่พักในจังหวัดหนึ่ง อาจต้องมีการเดินทางไปยังจังหวัดอื่นด้วย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรองตามนโยบาย ดังนั้น ปัจจัยหนุนในระยะถัดไปทั้งฝั่งของเศรษฐกิจไทยและตลาดทุน น่าจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนไทยได้ไม่ยากนัก + ระยะถัดไปเตรียมมีเม็ดเงินกระตุ้นจาก THAIESGX ณ พ.ค. 68 จึงถือเป็นจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคาถูก อาทิ SPALI, AP, SCC, PTTEP เป็นต้น
SET ยังถูกปัจจัยกดดัน และขาดสภาพคล่อง วันนี้ SET INDEX มีโอกาสผันผวนจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
มูลค่าซื้อขายที่ยังเบาบาง โดยสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยถูกซื้อขายอยู่ระดับ 2 หมื่นกว่าล้านบาทต่อวัน และตลาดหุ้นอินโดฯ หยุดซื้อขายถึงวันที่ 7 เม.ย. 68
นักลงทุนรอประเด็นการตั้งกำแพงภาษีสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เม.ย. 68
เป็นวันสุดท้ายที่นักลงทุน ROLLOVER สัญญาฟิวเจอร์สจากซีรีส์ H ไป M ทำให้ช่วงบ่าย SET INDEX มีโอกาสผันผวนสูง
ภายใต้มูลค่าซื้อขายเบาบาง และตลาดผันผวน แนะนำ TRADING หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ GPSC, BGRIM, ERW, MINT, CENTEL รวมถึงหลบความผันผวนในหุ้นปันผล AP, SPALI, TTB