ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

ยูโอบี ปล่อยกู้ 6,500 ล้าน! หนุนบางจากสร้างโรงงานผลิต SAF แห่งแรกในไทย

           หุ้นวิชั่น – กรุงเทพฯ 13 ธันวาคม 2567 – ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้มอบสินเชื่อภายใต้กรอบการสนับสนุน ทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนผ่าน (Transition Finance Framework) จำนวน 6,500 ล้านบาทให้กับบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย เพื่อใช้ในการพัฒนาก่อสร้างและเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel – SAF) แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนผ่าน สำหรับอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากธุรกิจปัจจุบันได้ยากครั้งแรกในประเทศไทย

           นางสาวพนิตสนีย์ ตั๊นสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจลูกค้าองค์กร ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธุรกรรมนี้เป็นการยืนยันของยูโอบีในการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องต่อกลุ่มบริษัทบางจาก ให้ครอบคลุมใน
ทุกด้าน พร้อมทั้งยืนยันจุดยืนของเราในฐานะธนาคารหลักที่สนับสนุนกลุ่มบริษัทฯ ในด้านกลยุทธ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ของบางจากฯ ซึ่งเป็นโครงการแรกของประเทศไทย

ภายใต้กรอบการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนผ่านนี้ ธนาคารยูโอบี มีความพร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมการเปลี่ยนผ่านในหลากหลายด้าน สำหรับอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากธุรกิจปัจจุบัน
ได้ยาก ซึ่งรวมถึงการผลิตเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) การใช้ประโยชน์จากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดักจับได้ (CCUS) และการมีส่วนร่วมในโครงการคาร์บอนเครดิตโดยสมัครใจ อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการผลิต SAF ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการลดคาร์บอนในภาคการบินได้” โดยสินเชื่อนี้ได้รับการออกแบบให้มีการจัดสรรคาร์บอนเครดิต เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนของบางจากฯ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับธนาคารยูโอบีในการให้บริการในลักษณะนี้ในประเทศ

           นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการนี้สะท้อนความพยายามของบางจากฯ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเปลี่ยนผ่านธุรกิจของเราไปสู่การเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2573 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 ความร่วมมือนี้ช่วยให้เราสามารถดำเนินการแผนการลดคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรม เราขอขอบคุณธนาคารยูโอบี ในการสนับสนุนทางการเงินในครั้งนี้ และความมุ่งมั่นที่จะอยู่เคียงข้างตลอดการเดินทางสู่ความยั่งยืนของเรา”

โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อผลิต SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่โซลูชันพลังงานที่ยั่งยืนของประเทศ โครงการ SAF นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ของบางจากฯ ในการก้าวไปสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำและนวัตกรรมที่ยั่งยืน ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas Industry)

           น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ผลิตจากทรัพยากรที่ยั่งยืนซึ่งสามารถผสมกับเชื้อเพลิงอากาศยานแบบดั้งเดิมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โครงการนี้ใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่คุณค่าแบบบูรณาการของบางจากฯ (Integrated Value Chain) โดยสามารถจัดหาน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากสถานีบริการน้ำมันของบางจากฯ
ทั่วประเทศและเครือข่ายพันธมิตร ทั้งนี้ โครงการ SAF จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับบางจากฯ ในฐานะหน่วยงานการค้า/การตลาดหลัก และจำหน่ายให้ลูกค้าอาทิ ผู้จำหน่ายเชื้อเพลิง สายการบิน และผู้ค้าน้ำมัน อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ บางจากฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายกับบริษัท เชลล์ อินเตอร์เนชันแนล อีสเทิร์น เทรดดิ้ง ในประเทศสิงคโปร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

           บางจากฯ ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานของประเทศไทย เป็นผู้บุกเบิกการผลิต SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วในประเทศไทยผ่านบริษัทย่อย บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) ซึ่งบางจากได้ลงทุน 8,500 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงการผลิต SAF ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2/2568 โดยมีกำลังการผลิต 1 ล้านลิตรต่อวัน ทั้งนี้ การใช้ SAF จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงประมาณ 80,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบดั้งเดิม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

OR ชู “วิชั่น” ยั่งยืนครบสูตร

OR ชู “วิชั่น” ยั่งยืนครบสูตร

JMT ชำระคืนหุ้นกู้ตามนัด 3,000 ลบ. ปีนี้ตั้งเป้าพอร์ตหนี้ 2,000 ลบ.

JMT ชำระคืนหุ้นกู้ตามนัด 3,000 ลบ. ปีนี้ตั้งเป้าพอร์ตหนี้ 2,000 ลบ.

THCOM คว้าโครงการใหญ่ NT  ควบคุมดาวเทียม ไทยคม 4 และ 6

THCOM คว้าโครงการใหญ่ NT ควบคุมดาวเทียม ไทยคม 4 และ 6

KTC ผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผล 1.32 บาท

KTC ผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผล 1.32 บาท

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด