หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทย (SET Index) วันนี้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ (Rebound) โดยมีแนวต้านที่ 1,180-1,185 จุด ซึ่งยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน หลังจากที่เริ่มเปิดเผยรายงานพิเศษเมื่อวานนี้เกี่ยวกับการผลักดันอุปสงค์ในประเทศ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวได้ในระยะสั้น ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุน (Sentiment) เป็นบวก แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาไม่ดีนัก โดย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกน (Consumer Sentiment – March) ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันอยู่ที่ 57.9 จุด ขณะที่มุมมองเงินเฟ้อคาดการณ์ 1 ปี และ 5 ปีข้างหน้า ปรับตัวขึ้นเป็น 4.9% และ 3.9% ตามลำดับ
ปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้าโลก และการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% แต่ต้องติดตามแถลงการณ์ของประธาน FED ว่าจะมีแนวโน้มต่อเศรษฐกิจและนโยบายการเงินอย่างไร
SET Index ปรับตัวลดลงแรงกว่า 20% จากระดับสูงสุดปลายปีก่อน ทำให้ Valuation ระยะกลาง-ยาวน่าสนใจ โดย P/E และ P/BV อยู่ที่ 12.4 เท่า และ 1.13 เท่า ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วงก่อนโควิดอย่างมีนัยสำคัญ เรามองว่าเป็นจังหวะในการทยอยสะสม โดยยังคงชอบหุ้น กลุ่ม Domestic และ Tourism-Related Play ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจโลก (Global-Related Play)
กลยุทธ์การลงทุน:
ยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่งในปี 2025 และมี Valuation ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด
หุ้นเด่นเดือนมีนาคม:
BA, BTG, CPALL, MTC, PR9
พอร์ตการลงทุน FSSIA:
BA, BBL, BTG, CPALL, MTC, NSL, PR9, SEAFCO, SHR
หุ้นเด่นวันนี้: NSL
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 43 บาท
ตั้งเป้ารายได้ปี 2025 เติบโต 16-17% YoY โดย ไตรมาส 1/2025 (QTD) ยังเติบโตตามแผนจากสินค้ากลุ่มใหม่และฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะเห็น การเติบโตชัดเจนขึ้นในธุรกิจผลิตชีส ซึ่งเริ่มดำเนินงานใน ไตรมาส 4/2024 กลุ่ม น้ำมะพร้าว/น้ำผลไม้ส่งออก จะรวมเข้ามาเป็นรายได้เต็มปี คาดกำไรไตรมาส 1/2025 แข็งแกร่ง มี Catalyst บวกจากแซนด์วิชใหม่ ที่ร่วมมือกับแบรนด์เนื้อแท้ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดี ประเมินรายได้ปี 2025 เติบโต +14% YoY และกำไรสุทธิ 600 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขประมาณการที่อนุรักษ์นิยม (Conservative) และยังมี Upside ปัจจุบันเทรด P/E เพียง 14 เท่า ซึ่งถือว่าไม่แพง
แนวรับ: 27.75-27.50 / 26.50 บาท แนวต้าน: 29-29.25 / 30 บาท
กระแสเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow)เมื่อวันศุกร์ กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มลดลง โดยมียอดไหลออกสุทธิ 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย ไต้หวัน มียอดไหลออกสูงสุด 285 ล้านดอลลาร์ อินโดนีเซีย ไหลออก 108 ล้านดอลลาร์ ไทยและเวียดนาม มีแรงขายต่อเนื่อง แต่ไม่มากนัก ฟิลิปปินส์ เป็นตลาดเดียวที่มีกระแสเงินทุนไหลเข้าเล็กน้อย แนวโน้มกระแสเงินทุนมีโอกาสพลิกกลับมาไหลเข้าอีกครั้ง หลังจากสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้า และยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
ประเด็นสำคัญวันนี้:
(+) SISB
ธุรกิจการศึกษาในโรงเรียนนานาชาติยังเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง แม้อัตราการเกิดของคนไทยจะลดลงช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนโรงเรียนนานาชาติเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.9% CAGRแม้ว่าค่าธรรมเนียมการศึกษาอาจปรับเพิ่มขึ้นเพียง 3% (จากเดิม 5%) เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ยังมีโอกาสเติบโตระยะยาวปรับลดประมาณการกำไร ปี 2025-2026 ลง 6.4% และ 8.7% ตามลำดับ ราคาเป้าหมายใหม่ 39 บาท ปัจจุบันเทรด P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
(+) GUNKUL
ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด 1,479 MW และมี 832 MW ที่ได้รับ PPA จากการประมูลล่าสุด มีโอกาสหา Partner เข้าร่วมลงทุนในโครงการใหม่ ยังมีธุรกิจ รับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า, สถานีไฟฟ้า, Data Center และเทรดดิ้งอุปกรณ์ไฟฟ้า IAA Consensus คาดกำไรสุทธิปี 2025 อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท
(+) STECON
ได้งานก่อสร้าง Data Center 2 โครงการ มูลค่า 16,000 ล้านบาท ได้แก่โครงการ CHN-1A และ CHN-2A จากบริษัท ควอตซ์คอมพิวติ้งเริ่มงานวันที่ 1 เม.ย. 2025 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีดัน Backlog ขึ้นเป็น 130,000 ล้านบาท เทียบเท่ารายได้ 3-4 ปี ราคาเป้าหมาย 8 บาท แนะนำ “ซื้อ”
สรุป:
SET Index มีแนวโน้ม Rebound ต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน และ Sentiment บวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน: ยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีพื้นฐานดีและมี Valuation ต่ำ
หุ้นเด่นวันนี้: NSL
Fund Flow ต่างชาติยังไหลออก แต่แนวโน้มอาจกลับมาไหลเข้าในระยะสั้น