ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

“ทรัมป์ 2.0”เขย่าทุนโลก หุ้นรับผลกระทบ เช็กเลย!

 

         หุ้นวิชั่น – บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า US ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน วานนี้ หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา (US) ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าจะใช้อำนาจประธานาธิบดีลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อลดราคาพลังงานใน US

โดยตั้งเป้าลดราคาน้ำมันเบนซินและค่าไฟของชาวอเมริกันลงครึ่งหนึ่งภายในช่วงปีแรกที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศจะอนุมัติให้มีการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน ตั้งโรงกลั่นน้ำมันใหม่ รวมถึงสร้างโรงไฟฟ้าใหม่

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงเล็กน้อย วานนี้ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.8% เป็น USD80.2/bbl

          นโยบายอื่นๆ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีการประกาศนโยบายในด้านอื่นๆอีกมากมาย โดยนโยบายที่สำคัญที่อาจจะกระทบต่อหุ้นที่เราดูแล คือ การยกเครื่องระบบการค้าของ US ด้วยการเก็บภาษีอากรจากต่างประเทศเพื่อสร้างความร่ำรวยให้ชาวอเมริกัน, การยกเลิกนโยบายส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึง การถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส ซึ่งเป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Source: Infoquest, Reuters)

มองเป็นลบต่อแนวโน้มราคาพลังงานในระยะยาว เชื่อว่าหากประธานาธิบดีทรัมป์สามารถดำเนินนโยบายได้ตามแผน จะส่งผลลบต่อราคาน้ำมันดิบ ราคาก๊าซ LNG รวมถึง ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) ในระยะยาวได้เนื่องจากอุปทานที่สูงขึ้นในตลาดโลก มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า

( + ) กลุ่มโรงไฟฟ้า: เป็นบวกกับกลุ่มโรงไฟฟ้า มีโอกาสที่ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกลดลง จากการผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติที่มากขึ้นของ US จะช่วยเพิ่มอุปทานในตลาดโลกมากขึ้น หุ้นที่ได้ positive sentiment จากประเด็นดังกล่าวคือ GPSC (ซื้อ/เป้า 60.00 บาท), BGRIM (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท), GULF (ถือ/เป้า 60.00 บาท)

          เป็นลบต่อกลุ่มพลังงานและกลุ่มส่งออก
( – ) กลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น: เรามองว่าจะเป็นลบต่อราคาน้ำมันและก๊าซ LNG ในระยะยาวจากอุปทานที่สูงขึ้น แต่จะส่งผลบวกต่อราคาก๊าซธรรมชาติ US (Henry Hub) ได้เนื่องจากอุปสงค์การส่งออกที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน กลุ่มโรงกลั่นน่าจะได้รับผลกระทบจากแนวโน้ม crack spread ที่อ่อนตัวตามอุปทานที่สูงขึ้น โดยในระยะยาวเรามองเป็นลบต่อ PTTEP (ซื้อ/เป้า 160.00 บาท), TOP (ซื้อ/เป้า 36.00 บาท), SPRC (ซื้อ/เป้า 8.50 บาท), BCP (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท)

          กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง: โดยสำหรับนโยบายยกเครื่องระบบการค้า US ด้วยการเก็บภาษีอากรจากต่างประเทศ แม้ปัจจุบัน ประธานิบดีทรัมป์ จะยังไม่มีการประกาศนโยบาย tariffs ตั้งแต่วันแรกของการรับเข้าตำแหน่ง โดยยังให้ทีมบริหารศึกษาอยู่ อย่างไรก็ตาม ยังย้ำถึงนโยบายเก็บภาษีเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยกลุ่มประเทศที่มีโอกาสได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรก ได้แก่ จีน แคนาดา และเม็กซิโก อย่างไรก็ตามสำหรับประเทศอื่นๆ รวมถึงไทย ยังต้องติดตามต่อ ทั้งนี้หุ้นกลุ่มส่งออกไทยที่มีสัดส่วนรายได้ส่งออกไปสหรัฐฯ สูง ได้แก่ AAI (ถือ/เป้า 6.00 บาท) และ ITC (ถือ/เป้า 22.50 บาท) ราว 50% และ TU (ถือ/เป้า 14.50 บาท) 40%

         กลุ่มยางพารา: สำหรับนโยบายยกเลิกส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เรามองเป็น sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มยาง แม้ปัจจุบันรายได้ส่งออกของ NER (ถือ/เป้า 5.50 บาท) จะเป็นการส่งออกไปจีนเป็นหลัก แต่นโยบายดังกล่าวอาจส่งผลให้ความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าของตลาดโลกลดลงและอาจกระทบราคายางในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

image not found

[Vision Exclusive] SEAFCO ฐานรากแข็งแรง ตุนงานในมือกว่า 2.6 พันล.

[Vision Exclusive] BAFS เติมน้ำมันเครื่องบินโต คาดไตรมาส 1/68 โตไม่ต่ำ 30%

[Vision Exclusive] BAFS เติมน้ำมันเครื่องบินโต คาดไตรมาส 1/68 โตไม่ต่ำ 30%

GULF ถูกเพิ่มอันดับเครดิต TRIS เป็น “AA-” ชี้แกร่งหลังควบรวม INTUCH

GULF ถูกเพิ่มอันดับเครดิต TRIS เป็น “AA-” ชี้แกร่งหลังควบรวม INTUCH

PTT ซื้อคืนอีก 7.66 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 245.12 ล้านบาท

PTT ซื้อคืนอีก 7.66 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 245.12 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด