หุ้นวิชั่น – บล.เอเซียพลัส จับตาประเด็นตั้งแต่มีกระแสความกังวลการขึ้น TAX TARIFF ของ TRUMP ในวันที่ 2 เม.ย.68 ว่าจะมีสินค้าอะไรและประเทศใดบ้างที่ติดรายชื่อ ทําให้นักลงทุนมีความไม่แน่นอนในการลงทุนสูง จึงกดดันให้มูลค่าการซื้อขายของ SET เบาบางลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย (24 MAR –1 APR) อยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่ค่าเฉลี่ยมูลค่าการซื้อขายตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท
ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวจาก THE WASHINGTON POST รายงานว่า ฝ่ายบริหารของ TRUMP กําลังพิจารณาเก็บภาษีนําเข้าราว 20% ของสินค้าส่วนใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 เม.ย.68 โดยฝ่ายวิจัยฯจึงประเมินคร่าวๆว่าจะกระทบ ต่อบริษัทจดทะเบียนอย่างไรบ้าง ซึ่ง SET มีรายได้รวม ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 18.7 ล้านล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นหุ้นที่เพิ่งพิง การส่งออกราว 3.6 ล้านล้านบาท(คิดเป็นสัดส่วนราว 19%) ซึ่งประเทศไทยพึ่งพิงการส่งออกไปสหรัฐฯราว 18.3%
ดังนั้นสามารถประเมินได้ว่ารายได้ SET INDEX พึงพิงการส่งออกไปสหรัฐราว 3.5% (6.5 แสนล้านบาท) และหากมีการขึ้นภาษีนําเข้า 20% ดังกระแสข่าวดังกล่าว จะทําให้มีสัดส่วนที่โดนผลกระทบราว 1.3 แสนล้านบาท หรือ 0.7% เท่านั้น
สรุปความกังวลการขึ้น TAX TARIFF ของ TRUMP ในวันที่ 2 เม.ย.68 ที่กําลังจะพิจารณาเก็บภาษีนําเข้าราว 20% ของสินค้าส่วนใหญ่ ฝ่ายวิจัยฯประเมินว่าหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากรายได้ SET INDEX พึงพิงการส่งออกไปสหรัฐราว 3.5% (6.5 แสนล้านบาท)