หุ้นวิชั่น – บล.หยวนต้า ประเมินหุ้นไทย เชิงกลยุทธ์แม้จะมีโอกาสเกิด Sell in May ในเดือน พ.ค. แต่.ฝ่ายวิจัยเชื่อ ว่าผลกระทบจะมี่ไม่มากหลังจากที่ ครม. เห็นชอบร่างกองทุน Thai ESGX เพื่อให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ที่เปลี่ยนจากกองทุน LTF เป็น Thai ESGX อีกทั้งยังให้สิทธิเพิ่มเติมสำหรับผู้ลงทุน Thai ESGX ใหม่ ซึ่งจะดึงดูดเม็ดเงินใหม่เข้ามา และ จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. – มิ.ย.
อย่างไรก็ดี มองว่าการจับจังหวะลงทุนในเดือน พ.ค. ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ดี เพราะต้นเดือน พ.ค. ยังคงมีปัจจัยกดดันจากประเด็นที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งจะเป็นจังหวะในการเข้าสะสม ในช่วงครึ่งหลังของเดือน พ.ค.* โดยเฉพาะเมื่อประเมินรายกลุ่มอุตสาหกรรมจะพบว่ามีหลายกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดได้แก่
1) กลุ่มอาหารเครื่องดื่ม เป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นเด่น และมีนัยยะสำคัญทางสถิติมากที่สุด เนื่องจากความน่าจะเป็นในการปรับตัวขึ้นสูงถึง 89% เฉลียที่ 1.8% ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะได้แรงสนับสนุนจากกลุ่มเครื่องดื่มเป็นหลัก ที่มักจะ มีแรงเก็งกำไรกลับเข้ามาหลังจากหมดฤดูร้อน (กลาง พ.ค.) เนื่องจากเป็น ช่วงที่รายงานผลประกอบการไปแล้ว และบริษัทมักจะให้ Guidance ที่ดีต่อผลประกอบการในไตรมาส 2 ที่จะเติบโตดี QoQ จากการเข้าสู่ High Season เช่น ICHI, COCOCO และ PLUS
2) กลุ่มธนาคาร มักจะปรับตัวขึ้นได้หลังจากทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD ไปเล้ว ตั้งแต่เดือน เม.ย. จึงมองว่าเป็นจังหวะทีดีในการเข้าสะสมเพิ่มสำหรับนักลงทุนระยะยาว เช่น KBANK และ SCB
3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มักจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในช่วงเดือน พ.ค. เช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นจังหวะสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาว โดยกลุ่มอสังหาฯ ยังมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวในปีนี้จากการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ของธนาคารพาณิชย์ แนะนำ SIRI, AP และ SPALI