หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง Commerce Sector ว่า กำลังซื้อฟื้นตัวจำกัด เลือกผู้เล่นที่แข็งแกร่งกว่ากลุ่ม
ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 (1QTD) ดัชนี SSSG ของหุ้นกลุ่มค้าปลีกใน Coverage ของเรามีค่าเฉลี่ยที่ -0.6% YoY โดยถูกกดดันจากจำนวนวันในเดือนกุมภาพันธ์ที่น้อยลง (ปี 2024 เป็นปีอธิกสุรทิน) รวมถึงยอดซื้อที่ลดลงจากมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt ทั้งในแง่จำนวนวันที่ใช้โครงการและวงเงินลดหย่อนที่ปรับลดลงจาก 50,000 เหลือ 30,000 บาท อย่างไรก็ตาม SSSG ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็น ยังโดดเด่นกว่ากลุ่มอื่น โดยยังเติบโตเป็นบวก
กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค: SSSG เฉลี่ยอยู่ที่ +1.5% YoY แม้จะเติบโตชะลอลงจาก +1.8% YoY ในช่วง 4Q24 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของการบริโภค โดย CPALL อยู่ที่ +2–3% YoY, CPAXT +1–3% YoY และ BJC +2–3% YoY ขณะที่ธุรกิจอาหารของ CRC ติดลบ 1–3% YoY แม้ธุรกิจในไทยเป็นบวกเล็กน้อย แต่ได้รับแรงกดดันจากธุรกิจในเวียดนาม (ผลกระทบจากค่าเงินบาท/ดองแข็งค่า ทำให้ยอดขายในรูปสกุลเงินดองทรงตัว)
กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและ Home Improvement: SSSG เฉลี่ยอยู่ที่ -3.5% YoY อ่อนแอลงจาก -1.2% YoY ใน 4Q24 โดย CRC ถูกกดดันจากการแข่งขันในเวียดนาม และฐานสูงในอิตาลี ขณะที่ GLOBAL และ HMPRO ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนแอ ส่วน DOHOME มีผลการดำเนินงานดีกว่ากลุ่ม โดย SSSG เป็นบวก เนื่องจากได้รับเม็ดเงินจากงบการลงทุนภาครัฐ
แนวโน้มกำไรปกติ 1Q25 คาดว่าจะเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาล เนื่องจากพ้นช่วง High Season ของภาคการบริโภค โดยเฉพาะ CPALL และ CPAXT ที่นอกจากยอดขายจะเติบโต ยังได้รับประโยชน์จาก Synergies และการประหยัดต้นทุนหลังการควบรวมกิจการ ขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและ Home Improvement แม้ SSSG จะติดลบทั้งไตรมาส แต่เราประเมินว่าการขยายสาขาและการเพิ่มสัดส่วนสินค้า Private Brand จะช่วยให้ผลประกอบการใน 1Q25 ทรงตัวถึงเติบโตเล็กน้อย YoY
แนวโน้มกำไรปี 2025: คาดกำไรปกติของกลุ่มค้าปลีกอยู่ที่ 66,000 ล้านบาท เติบโต +11% YoY โดยในไตรมาส 2 คาดว่ากำไรจะลดลง QoQ ตามฤดูกาล ยกเว้น CPALL ที่ได้ประโยชน์จากการเดินทางและ Traffic ช่วงหน้าร้อน สำหรับการเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อตามภาคท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น แจกเงินหมื่นเฟส 3 และมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐที่มากกว่าปีก่อน นอกจากนี้รายได้ภาคเกษตรที่คาดว่าจะเติบโตจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานีญา ก็ช่วยสนับสนุนเช่นกัน
ในช่วงครึ่งหลังปี 2568 (2H25) คาดว่าผลประกอบการจะเติบโต YoY โดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก หากมาตรการแจกเงินหมื่นเฟส 4 สามารถดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3 (วงเงินราว 130,000 ล้านบาท) ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการจับจ่ายภาคการบริโภค ขณะที่ในฝั่งต้นทุน คาดว่ากลุ่มค้าปลีกจะได้ประโยชน์จากต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่มีแนวโน้มลดลง YoY
มุมมองการลงทุน: เรายังคงน้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” (Overweight) สำหรับกลุ่มค้าปลีก แม้ว่ากำลังซื้อในช่วงต้นปี (1QTD) จะฟื้นตัวน้อยกว่าที่คาด แต่ราคาหุ้นที่ปรับลงก่อนหน้านี้น่าจะสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ทำให้ระดับ Valuation ในปัจจุบันน่าสนใจ โดยเลือก CPALL (ราคาเป้าหมาย 75.00 บาท) เป็นหุ้นเด่น จาก SSSG ที่เติบโตดี และได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2025 เพียง 16 เท่า ซึ่งต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 และ 10 ปี สำหรับกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและ Home Improvement แม้จะมี Upside Gain สูง แต่คาดว่าราคาหุ้นจะเริ่มฟื้นในช่วงปลาย 2Q25 ซึ่งกำไรในครึ่งปีหลังจะเติบโตจากฐานที่ต่ำ และมีแนวโน้มเห็นการฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ ซึ่งจะเป็นจังหวะในการทยอยสะสม