หุ้นวิชั่น – SVR มองมาตรการผ่อนคลาย LTV เป็นปัจจัยบวก หนุนกำลังซื้อบ้านทั้งหลังแรกและหลังที่สอง ด้านผู้บริหาร “รณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์” จ่อบุ๊กเงินขายอสังหาริมทรัพย์ 8 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 4 พันล้านบาท พร้อมปรับกลยุทธ์รับมือเศรษฐกิจชะลอตัว
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยกับ หุ้นวิชั่น ว่า การผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) โดยคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ที่ต้องการซื้อบ้านทั้งหลังแรกและหลังที่สอง
ทั้งนี้ การผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบมากขึ้น และลดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนว่าการปฏิเสธสินเชื่อจะลดลงมากน้อยเพียงใด แต่จากสถิติที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อในระดับสูงอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัท มองว่า การผ่อนคลายมาตรการ LTV จะช่วยให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลบวกต่อบรรยากาศการซื้อขายและกำลังซื้อของผู้บริโภคในอนาคต
ด้าน สาระสำคัญของการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV มีดังนี้ กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเป็นร้อยละ 100 สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งกรณี (1) มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป และ (2) มูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป
และการผ่อนคลายนี้ให้เป็นการชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569
สำหรับแผนธุรกิจปี 2568 SVR ได้เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วในช่วงต้นปี ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีโครงการรวม 8 แห่ง มูลค่ารวมเกือบ 4,000 ล้านบาท โดยโครงการที่เปิดตัวประกอบด้วย สิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท-บางปู), สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู 58), สิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา), สิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท-บางปู), สิวารมณ์ ปาร์ค (วงแหวน-ประชาอุทิศ 76), สิวารมณ์ วิลเลจ (วงแหวน-ชัยพฤกษ์) และสิวารมณ์ ไฮด์ (บางแค-สาทร)
SVR ยังคงเดินหน้าโอนกรรมสิทธิ์ พร้อมรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพ
คาดว่าการเติบโตในปี 2568 อาจไม่ได้ขยายตัวในระดับสูงเช่นปีก่อนหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน ทั้งนี้ที่ผ่านมา SVR มีอัตราการเติบโตโดดเด่นถึง 50% อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังคงเดินหน้าขยายโครงการใหม่ และปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงต่อไป
อนึ่ง ปี 2567 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 862.94 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 27.38 ล้านบาท
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision