หุ้นวิชั่น – บอสใหญ่ SEI “กานต์ ปุญญเจริญสิน” กางแผนปี 68 ลุยเพิ่มไลน์ธุรกิจเครื่องมือแพทย์กลุ่ม ICU รับดีมานด์ฟื้นตัวหลังโควิด หนุนด้วยสังคมผู้สูงอายุ ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมเดินหน้าเฟ้นพันธมิตรใหม่ทั่วโลก ตั้งเป้าแตะ 25 ราย จากปัจจุบัน 17 ราย
นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า แผนดำเนินธุรกิจปี 2568 บริษัทเตรียมขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์จากเดิม 5 กลุ่ม เป็น 6 กลุ่ม โดยจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับห้องไอซียู (ICU: Intensive Care Unit) อาทิ เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาด เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็นในโรงพยาบาลทุกแห่ง
ปัจจุบัน SEI มีผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มดูแลทารกแรกเกิด (Neonatal Care) เครื่องมือที่ใช้ดูแลทารกแรกเกิดทั้งปกติและกลุ่มเสี่ยง กลุ่มกล้องส่องตรวจ (Endoscope) สำหรับการตรวจทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ และโสตศอนาสิก กลุ่มการผ่าตัด (Surgery) เครื่องมือที่ใช้ในห้องผ่าตัด กลุ่มเครื่องมือวิทยาศาสตร์ (Laboratory) สำหรับการวิเคราะห์ เก็บตัวอย่าง วิจัย และกลุ่มความงาม (Aesthetic) เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการเสริมความงาม
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ จะเน้นอุปกรณ์ที่ใช้ในห้อง ICU ซึ่งแม้ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา อุปกรณ์เหล่านี้จะมีความต้องการสูง แต่หลังจากนั้นมีการชะลอตัวจนหลายบริษัทหยุดดำเนินกิจการ อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าขณะนี้เป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากตลาดเริ่มฟื้นตัว และยังคงมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง
SEI มองอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์แม้ไม่ใช่ธุรกิจที่เติบโตหวือหวา แต่เป็นอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ระดับเลขหลักเดียว หรือประมาณ 6-7% ต่อปี แม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่บริษัท ยังคงสามารถเติบโตได้ตามทิศทางของอุตสาหกรรม เนื่องจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโรงพยาบาลทุกแห่ง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจดีหรือไม่ก็ตาม
นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ความต้องการด้านการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
นายกานต์ กล่าวต่อว่า บริษัทได้วางเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2567 ที่ 447.40 ล้านบาท จากการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ 6 และบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจเป็น 25 แบรนด์ครอบคลุมทั่วโลก จากปัจจุบันมีพันธมิตรอยู่ 17 แบรนด์ที่กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย และจีน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานในงวดปี 2567 ว่า ถือเป็นปีที่ดี และโดดเด่น เนื่องจากทั้งรายได้และกำไรสุทธิ สามารถเติบโตแบบ all time high โดยรายได้รวม 443.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12.81% มีกำไรสุทธิ 53.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144.26% จากงวดปี 2566 สินค้าที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ยังเป็นกลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) และกลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด (Neonatal Care) ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นมาก
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision