ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

“โกลเบล็ก” คัด 9 หุ้นเด่นรับ กนง. ลดดอกเบี้ย

          บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทย Sideway ออกข้าง หลังไม่สามารถผ่าน 1,500 จุดไปได้ แม้ภาพรวมเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายมีแนวโน้มฟื้นตัวจากเงินเฟ้อชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยขาลง แต่ปัจจัยความไม่สงบในตะวันออกกลางและสงครามยังกดดันการลงทุน จึงให้กรอบดัชนี 1,450-1,500 จุด และกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยของกนง. ได้แก่ MTC-SAWAD-TIDLOR-GULF-GPSC-BGRIM-SIRI-SC-SPALI 

          นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยดัชนียังเผชิญแรงขายทำกำไรบริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1,500 จุด แม้ว่าภาพเศรษฐกิจไทยช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้มีโอกาสฟื้นตัวจากเงินเฟ้อชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยขาลง รวมทั้งการเข้าสู่ไฮซีซั่นในช่วงปลายปี

          แต่จากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ WTI กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลในชวงไตรมาส 3 ปี 2567 พบว่า ความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 45.1 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 45.2 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง  ทำให้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง จึงมองกรอบดัชนีที่ระดับ 1,450-1,500 จุด

          ส่วนภาวะเศรษฐกิจจีนในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 4.8% ต่ำกว่าเป้าหมายเศรษฐกิจของปีนี้ที่ตั้งไว้ประมาณ 5% และที่สำคัญรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนที่พัฒนาและผลิตอาวุธให้กับรัสเซียโดยตรงเพื่อใช้ทำสงครามกับยูเครน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกสำหรับการคว่ำบาตรบริษัทจีน ขณะที่ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนประกาศว่า การทำสงครามกับอิสราเอลกำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ที่ทวีความรุนแรงยิ่งกว่าเดิมหลังการสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส

          ด้านปัจจัยในประเทศที่ยังคงต้องจับตาต่อ สัปดาห์ที่ 4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย, สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, 30 ต.ค. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ, 31 ต.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

          ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าจับตาวันนี้ 22 ต.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีการผลิตเดือนต.ค., วันที่ 23 ต.ค. สำนักข่าว CNN จัดโต้วาทีครั้งที่ 2 สำหรับผู้เข้าชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐ, สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์เช้าวันที่ 24 ต.ค., เฟด รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) 24 ต.ค., ญี่ปุ่น รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนต.ค., สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนต.ค.

          ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ได้แก่ MTC, SAWAD, TIDLOR, GULF, GPSC, BGRIM, SIRI, SC และ SPALI

          ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. และ ธ.ค. ครั้งละ 0.25% รวมเป็น 0.50% ภายในปี 2567 ประกอบกับความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น หลังอิสราเอลยืนยันการเสียชีวิตของผู้บัญชาการฮิซบอลเลาะห์ และผู้นำกลุ่มฮามาส หนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 2,680 – 2,750 $/Oz จึงแนะนำเก็งกำไรในกรอบราคาดังกล่าว

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ดูแลราคาสินค้าได้ผล

อัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ดูแลราคาสินค้าได้ผล

อัปเดทด่วน!  ปัจจัยตลาดหุ้น 14 เม.ย.68  จับตาหุ้นเทคโนยีเอเชีย

อัปเดทด่วน! ปัจจัยตลาดหุ้น 14 เม.ย.68 จับตาหุ้นเทคโนยีเอเชีย

ด่วน! สหรัฐผ่อนคลายภาษีจีน ยกเว้นเก็บเทคโนโลยี หุ้นขานรับ เช็กเลย!

ด่วน! สหรัฐผ่อนคลายภาษีจีน ยกเว้นเก็บเทคโนโลยี หุ้นขานรับ เช็กเลย!

เช็กได้เลย! 9 ธุรกิจไทยอ่วม  รับผลกระทบภาษีสหรัฐเต็มๆ

เช็กได้เลย! 9 ธุรกิจไทยอ่วม รับผลกระทบภาษีสหรัฐเต็มๆ

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด