หุ้นวิชั่น – บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ระบุ ไทยถูกขึ้นภาษี reciprocal tariff จากสหรัฐสูงถึง 36% เทียบกับ China 34% EU 20% Vietnam ที่ 46%ทั้งนี้ การขึ้นจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ขึ้นอัตรา 10% กับทุกประเทศ เริ่มวันที่ 5 เม.ย.นี้ และวันที่ 9 เม.ย.68 จะขึ้นในส่วนที่เหลือตามอัตรา reciprocal tariff รายประเทศ (เช่น ขึ้นอีก 26% กรณีไทย) เบื้องต้นคาดเป็นผลลบต่อ Sentiment ตลาดฯโดยเฉพาะหุ้นส่งออก และเป็นความเสี่ยงต่อการปรับลด GDP ปี 2568
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสหรัฐน่าจะยังเปิดช่องสำหรับการเจรจา จากการเว้นช่วงเวลาในการบังคับใช้ ขณะที่การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า จะส่งผลเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเองด้วย
ทั้งนี้ มีรายละเอียดผลกระทบรายหุ้น ที่รวบรวมมา ดังนี้
TU มีรายได้ในตลาด US ราว 40% (ผ่านธุรกิจทูน่ากระป๋อง, กุ้งและอาหารทะเลแช่แข็ง และPetfood) โดยเป็นการส่งออกจากไทยไป US ราว 15% ในส่วนนี้อาจได้รับผลกระทบเชิงลบด้านความสามารถการแข่งขันจากอัตราภาษีที่เพิ่ม
ITC 50% ของรายได้มาจาก Americas (US Canada Brazil and others)
AAI 52% ของรายได้มาจาก US
STGT 20% ของรายได้มาจาก US
ITC AAI อาจได้รับผลกระทบด้านการแข่งขันจากผู้ผลิตในสหรัฐฯที่เดิมต้นทุนสูงกว่าผู้ผลิตไทย
STGT อาจได้รับผลกระทบจากการที่คู่แข่งหลักอย่างมาเลเซียถูกขึ้นภาษีตํ่ากว่าไทย 12%
SAPPE มียอดขายส่งออกไป US 7%