ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

หุ้นกู้ KCCH ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการหนี้ [FynnCorp IAS Bond Research]

บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)

Business Sector: Finance and Securities

Company Rating: Unrated

Issue Rating: Unrated

Listed Status: MAI

 

Key Highlights:

  • KCCH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ KCCAMC และ KCCAR มีรายได้การดำเนินงานลดลงเล็กน้อย แต่ธุรกิจหลักยังเติบโตได้ดี เน้นลงทุนเพิ่มในพอร์ต NPL ที่ให้ผลตอบแทนสูง
  • สถานะการเงินแข็งแกร่ง เงินสด 304 ล้านบาท แต่ยังต้องพึ่งพาเงินกู้เพิ่ม
  • KCCH ออกหุ้นกู้ 6.00% ต่อปี ไม่มีเรตติ้ง อายุ 1 ปี 11 เดือน 29 วัน อัตราดอกเบี้ย 6.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2568

 

หุ้นกู้ KCCH

ภาพรวมธุรกิจ บริษัท ไนท คลับ แคปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (KCC) จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ในเดือนสิงหาคม ปี 2566 เพื่อดำเนินธุรกิจด้วยการเข้าลงทุนถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่ง KCC ดำเนินธุรกิจหลักด้วยการถือหุ้น 99.73% ภายใต้ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (KCCAMC) ที่ประกอบธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จากการรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) จากสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน แล้วนำมาปรับปรุงโครงสร้างหนี้และบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) เพื่อนำมาพัฒนาและจำหน่ายต่อไป

 

นอกจากนี้ KCC ยังดำเนินธุรกิจหลักด้วยการถือหุ้น 100% ภายใต้ บริษัท เคซีซี แอสเซท รีคัฟเวอรี่ จำกัด (KCCAR) ซึ่งดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากการรับซื้อหรือรับโอนลูกหนี้ NPLs เช่น การซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพประเภทหุ้นกู้ หรือประเภทลูกหนี้การค้าจากบุคคลหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และนำมาบริหารจัดการ ปรับปรุงและจำหน่ายต่อไป

 

แหล่งรายได้ มาจาก 1) การบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ อย่างดอกเบี้ยรับจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ จากกำไรการรับชำระหนี้ และจากกำไรการขายเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ เป็นต้น และ 2) กำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายที่บริษัทได้มีการสร้างมูลค่าเพิ่ม ปรับปรุงให้มีสภาพดีพร้อมใช้ประโยชน์ เพื่อให้สามารถจำหน่ายให้กับบุคคลภายนอกได้ นอกจากนี้ ยังมี 3) รายได้จากการดำเนินงานอื่น เช่น รายได้จากการให้บริการบริหารสินทรัพย์ รายได้ดอกเบี้ยรับจากธนาคาร และอื่นๆ

 

ผลการดำเนินงานปี 2567 เมื่อรวมรายได้จากการดำเนินงาน 3 แหล่งข้างต้นจะอยู่ที่ 185.7 ล้านบาทในปี 2567 โดยรายได้มาจากธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเป็นหลัก คิดเป็นกว่า 93% หรือมูลค่า 172.8 ล้านบาท ตามด้วยกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขาย มูลค่า 9.5 ล้านบาท (5%) และรายได้อื่นๆ ส่วนกำไรสุทธิ อยู่ที่ 81.8 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม รายได้จากการดำเนินงานลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน 2.8% YoY สาเหตุหลักมาจากกำไรสุทธิจากการรับชำระหนี้ลดลง 58.3% YoY อยู่ที่ 10.98 ล้านบาท จาก 26.35 ล้านบาทในปี 2566 ซึ่งปกติบริษัทจะรับรู้กำไรส่วนนี้เมื่อได้รับเงินส่วนที่เกินกว่าราคาทุนที่จ่ายซื้อลูกหนี้และดอกเบี้ยที่ได้รับชำระจากลูกหนี้ ส่วนกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายที่จำหน่ายได้ ลดลง 32.7% YoY ขณะเดียวกัน กำไรสุทธิลดลงจากปีก่อนหน้า 2.8% จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มจากการออกหุ้นกู้เพื่อซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มเติม

 

แม้ว่ารายได้ภาพรวมจะลดลงเล็กน้อย แต่รายได้หลักของบริษัท อย่างรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้สุทธิของบริษัท ยังเติบโต 17.3% YoY มาอยู่ที่ 159.8 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการลงทุนเพิ่มในพอร์ต NPL ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น และการขยายตัวของพอร์ต สะท้อนศักยภาพในการสร้างรายได้และผลตอบแทนในระยะยาวของบริษัท

 

สถานะทางการเงิน บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 304 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E ratio) อยู่ที่ 1.06 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E) อยู่ที่ 1.00 เท่า สะท้อนว่าหนี้สินส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย โดยหลักเป็นตราสารหนี้ คิดเป็น 88.5% ของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยทั้งหมด

 

โดยบริษัทสามารถจ่ายดอกเบี้ยอยู่ในระดับดี สะท้อนจากอัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย (ICR) ที่ 2.14 เท่า อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนความสามารถในการชำระผูกพัน (DSCR) อยู่ที่ 0.26 เท่า หมายความว่า มีกำไร EBITDA ครอบคลุมภาระหนี้ (ดอกเบี้ย + เงินต้น) ที่ครบกำหนดใน 1 ปี ได้เพียง 26% ส่งผลให้บริษัทต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้ใหม่ เช่น การออกหุ้นกู้

 

KCCH เสนอขายหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ เป็นหุ้นกู้เสี่ยงสูง ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 1 ปี 11 เดือน 29 วัน อัตราดอกเบี้ย 6.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2568 โดยบริษัทไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรและหุ้นกู้ มีวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อย เพื่อนำไปใช้ซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะยาว

 

การดำรงอัตราส่วนทางการเงิน บริษัทจะต้องดำรงอัตราส่วนของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E) ตามข้อกำหนดสิทธิของผู้ออกหุ้นกู้ ไม่เกิน 2.5 เท่า ณ วันสิ้นงวดบัญชี

 

 

ปัจจัยเสี่ยง

ความเสี่ยงในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ บริษัทมีความเสี่ยงหากลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายชำระเงินตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน หรือการดำเนินกระบวนการทางศาลล่าช้า หลักประกันไม่คุ้มหนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีขั้นตอนการคัดเลือกสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ด้วยการดำเนินการสอบทานข้อมูล (Due Diligence) อย่างละเอียด

 

ความเสี่ยงจากการจัดซื้อลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจที่ไม่มีหลักประกัน หากเกิดเหตุการณ์ที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ให้กับบริษัทได้ บริษัทจะต้องดำเนินการฟ้องร้อง เพื่อบังคับคดีกับทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้ ซึ่งใช้ระยะเวลาและอาจส่งผลต่อกระแสเงินสดรับ และความสามารถในการชำระคืนหนี้ได้ ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญในการพิจารณา ประเมิน และกำหนดราคาซื้อลูกหนี้ทุกครั้งที่เข้าประมูลซื้อลูกหนี้ อย่างเช่น การพิจารณาภาระหนี้คงเหลือ ความสามารถในการชำระหนี้ พิจารณาแผนธุรกิจ วิเคราะห์งบการเงิน และอุตสาหกรรม เป็นต้น

 

ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของบริษัท จากการที่บริษัทมีลูกหนี้ 1 ราย ที่มีสัดส่วนมากกว่า 30.4% ของเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิของ KCCAMC ณ สิ้นปี 2567 โดยเป็นสินเชื่อธุรกิจที่มีหลักประกัน ซึ่งผลการดำเนินงานของลูกหนี้อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ ทำให้ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทตามมา บริษัทจึงได้ติดตามลูกหนี้นี้ และมีการประเมิน ติดตามมูลค่าหลักประกันอย่างสม่ำเสมอ โดยมีรายงานความคืบหน้าทางคดีต่อคณะกรรมการบริษัททุกเดือน และรายงานต่อคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงทุกไตรมาส

 

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปลัดพลังงาน สั่ง กฟผ. เร่งขุดขนถ่านหินแม่เมาะไม่ให้กระทบค่าไฟ

ปลัดพลังงาน สั่ง กฟผ. เร่งขุดขนถ่านหินแม่เมาะไม่ให้กระทบค่าไฟ

กฟผ. เตรียมลงนามสัญญาจ้างผู้ชนะประมูลงานจ้างเหมาฯ เหมืองแม่เมาะ

กฟผ. เตรียมลงนามสัญญาจ้างผู้ชนะประมูลงานจ้างเหมาฯ เหมืองแม่เมาะ

Bitcoin Strategic Reserve จะเปลี่ยนโฉมระบบการเงินโลกอย่างไร? [HoonVision x TokenX]

Bitcoin Strategic Reserve จะเปลี่ยนโฉมระบบการเงินโลกอย่างไร? [HoonVision x TokenX]

ราคาทองเช้าวันนี้ เด้งรวม 550 บ. ลุ้นไปต่อ?

ราคาทองเช้าวันนี้ เด้งรวม 550 บ. ลุ้นไปต่อ?

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด