ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

ลุ้นดอกเบี้ยไทยลดลงตามเฟด สู่2%

          นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ โดยเสียงส่วนใหญ่ 11 ต่อ 1 เห็นชอบให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50 เบซิสพอยต์ (0.50%) ทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับลดจากช่วง 5.25% ถึง 5.50% ลงมาอยู่ที่ 4.75% ถึง 5.00% โดยมีโอกาสที่จะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกมาที่ราว 4.25% – 4.50% และอาจปรับลดลงอีก 1% ในปี 2568

          ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอาจลดลงเกิน 0.25% หรืออาจปรับลงไปอยู่ที่ระดับ 2% จากปัจจุบันที่ 2.50% ต่อปี โดยคาดว่ากนง. อาจต้องได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากกระทรวงการคลังและภาครัฐ เพื่อดำเนินนโยบายการเงินและการคลังควบคู่ไปกับการบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนหุ้นที่น่าลงทุนในสถานการณ์นี้มี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่:

  • กลุ่มไฟแนนซ์: เช่น MTC และ SAWAD ที่จะได้ประโยชน์จากต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลง
  • กลุ่มอสังหาริมทรัพย์: ที่จะได้รับประโยชน์จากการซื้อโครงการที่ต้องมีการผ่อนชำระ
  • กลุ่มหุ้นที่มีหนี้สูง: เช่น โรงไฟฟ้า ที่จะทำให้ภาระการจ่ายดอกเบี้ยลดลง
แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แถลงการณ์ นายกรัฐมนตรี  เปิดช่องนำเข้าสินค้าสหรัฐฯเพิ่ม

แถลงการณ์ นายกรัฐมนตรี เปิดช่องนำเข้าสินค้าสหรัฐฯเพิ่ม

รมช.คมนาคม เปิดท่าเรือพระราม 7 ยกระดับโครงข่าย “ล้อ - ราง - เรือ”

รมช.คมนาคม เปิดท่าเรือพระราม 7 ยกระดับโครงข่าย “ล้อ - ราง - เรือ”

OR ชู OTOP ผ่าน

OR ชู OTOP ผ่าน "ไทยเด็ด" คัดขึ้นเชลฟ์ พีทีที สเตชั่น - คาเฟ่ อเมซอน

จัดธนบัตร 4 หมื่นล้าน รับใช้จ่ายช่วงสงกรานต์

จัดธนบัตร 4 หมื่นล้าน รับใช้จ่ายช่วงสงกรานต์

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด