ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

หุ้นไทยสะเทือน! ระวังสินทรัพย์เสี่ยง

 

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาด SET Index เปิดตลาดปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก และดัชนี Futures ของสหรัฐฯที่ปรับตัวลงแล้วกว่า 2% – 3% เช้านี้ แต่
Magnitude ของการปรับลงจะไม่รุนแรงเท่า (รายละเอียดด้านล่าง) ปัจจัยกดดันล่าสุดได้แก่ การประกาศเรียกเก็บภาษี Reciprocal tariff ของสหรัฐฯที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก
และในส่วนของประเทศไทยนั้น ถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าหลายๆประเทศพอควร โดยถูกเรียกเก็บในอัตรา 36%

– ทั้งนี้ เรายังคงยืนยันมุมมองระมัดระวังต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงระดับโลกจากความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกมีโอกาสสูงที่จะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว/หดตัว ในช่วงถัดไป และแนะนำนักลงทุนว่าไม่จำเป็นต้องเสาะหาสัญญาณเศรษฐกิจถดถอยแต่อย่างใด เนื่องจากในอดีต กว่าเราจะเห็นสัญญาณนี้ ตลาดหุ้นก็มักจะปรับตัวลงสู่จุดต่ำสุดไปแล้ว 3-6 เดือน ซึ่งจะทำให้เรา
Take action ช้าเกินไป

– มองการเก็บภาษี Reciprocal tariff ที่สูงกว่าคาดนี้ จะส่งผลให้ระดับราคาสินค้าเร่งตัวขึ้นในระยะสั้น ซึ่งจะมาพร้อมๆกับความเสี่ยง Downside ของเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้างมากขึ้น นั่นหมายความว่าความเสี่ยงของปัจจัย Stagflation ที่สูงขึ้นตามไปด้วย มองบริบทดังกล่าวจะทำให้ผู้กำหนดนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ ทำงานได้ยาก ซึ่งก็จะทำให้ตัวช่วยของตลาดทุนลดน้อยลงไปอีก

– ทั้งนี้ หากอ้างอิงจากบทวิเคราะห์การลงทุนประจำไตรมาสที่ 2 ของเรายังคงแนะนำ Overweight สินทรัพย์ปลอดภัยต่อไป โดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐฯ แม้ Yield จะทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่อง แต่ประเมินว่ามีโอกาสจะขยับลงได้อีก โดยเฉพาะรุ่นระยะกลางขึ้นไปหากนักลงทุนในตลาดเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเดินหน้าไปสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น ส่วนมุมมองของเราต่อตราสารทุนนั้น เรายังคงแนะนำ Underweight ตลาดหุ้นสหรัฐฯเป็นสำคัญ เนื่องจากยังคงมองเช่นเดิมว่าจะเป็นประเทศที่เสียประโยชน์โดยตรงในระยะสั้น จากทั้งต้นทุนสินค้าที่แพงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งจะถูกส่งผ่านไปยังระดับราคาสินค้าที่ผู้บริโภคต้องจ่ายให้แพ
งขึ้นด้วยเช่นกัน

– Implication to Thailand: มองผลกระทบของการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่มีต่อไทยดังกล่าว หากดำเนินการทันทีในอัตรา 36% จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน ผ่านการส่งออกสินค้าซึ่งมีสัดส่วนอยู่ราว 60% ของ GDP แต่มองผลกระทบที่จะส่งต่อมายังตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในระดับต่ำกว่า เนื่องจาก 1) สัดส่วนหุ้นส่งออกในตลาดมีน้ำหนักไม่มาก และ 2) Valuation ของหุ้นไทยที่อยู่ในระดับต่ำมาก 3) ความสัมพันธ์ของหุ้นไทยกับหุ้นโลกที่อยู่ต่ำมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

– Sectors: มองผลกระทบต่อ Sector ต่างๆในตลาดหุ้นไทยอยู่ 3 ด้าน ด้านแรกคือผลกระทบไปยังกลุ่มผู้เล่นส่งออกโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม อาหาร สินค้าเกษตร อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ เป็นต้น ส่วนอีกด้านหนึ่งคือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบผ่านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงในตลาดโลก จากความกังวลทางด้าน Demand ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น เช่น กลุ่ม พลังงานปิโตรเคมี เป็นต้น และอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องระวังหากเศรษฐกิจโลกชะลอมากขึ้นคือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อาจลดลงในช่วงถัดไป

– Trading range: ทั้งนี้ เรายังคงกำหนดกรอบแนวรับของ SET Index ประจำไตรมาส 2 ไว้ที่เดิมก่อน ซึ่งมีอยู่ 2 แนวด้วยกัน ได้แก่บริเวณ 1150 จุด และ 1100 จุด สาเหตุหลักเนื่องจาก มองว่าระดับ Valuation
ของ SET อยู่ต่ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และที่ระดับ 1100 จุดก็เป็นระดับที่ซื้อขายด้วย Forward PBV 1.07x หรือเทียบเท่าจุดต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นระหว่างวันในช่วงวิกฤติ Covid-19 แล้ว

– THB: อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องระวังคือภาพของเงินบาท เนื่องจากการถูกเก็บภาษี Reciprocal นี้ เมื่อรวมกับดุลบริการที่แย่ลง และแนวโน้มเงินทุนไหลออกในช่วงสั้น จะทำให้ดุลการชำระเงินของไทยได้รับผลกระทบได้ ล่าสุด แม้ตะกร้า Dollar Index จะไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น แต่หากดูเงินบาทที่เทียบกับ USD จะพบว่ามีการอ่อนค่าทำสถิติใหม่ของรอบที่ 34.4 บาทต่อดอลลาร์ สะท้อนภาพการอ่อนแอของเงินบาทที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวโดยในรอบวันที่ผ่านมา ถือเป็นสกุลเงินในเอเชียที่ปรับตัวอ่อนค่ามากที่สุดอีกด้วย คาดปัจจัยดังกล่าวมีโอกาสส่งผลกระทบมายังกระแส Fund flow ของนักลงทุนต่างชาติในระยะสั้น

– จากนี้ไป คงจะต้องติดตามดูว่าจะมีการโต้ตอบจากประเทศต่างๆด้วยมาตรการการค้าอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในส่วนของไทย ว่าจะเดินเกมส์ไปในทิศทางไหน ระหว่างการเก็บภาษีโต้ตอบสหรัฐฯที่มากขึ้น หรือการยอมเปิดทางการเจรจาการค้าให้มีการนำเข้าสินค้าจากทางสหรัฐฯให้มากขึ้นแทน ซึ่งหากเป็นอย่างหลัง เชื่อว่าโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมาก็มีความเป็นได้สูง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลท. ใช้ Ceiling & Floor (+/-30%) เริ่มมีผล 16 เม.ย.68

ตลท. ใช้ Ceiling & Floor (+/-30%) เริ่มมีผล 16 เม.ย.68

ก.ล.ต. กล่าวโทษ หมอบุญ วนาสิน เหตุเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ

ก.ล.ต. กล่าวโทษ หมอบุญ วนาสิน เหตุเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ

กลต. ยกเลิกไม่ให้กลุ่ม NON SET100 เป็นหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้ เริ่ม 16 เม.ย.นี้

กลต. ยกเลิกไม่ให้กลุ่ม NON SET100 เป็นหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้ เริ่ม 16 เม.ย.นี้

NER ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี68 ไฟเขียวปันผลอีกหุ้นละ 0.31 บ.

NER ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี68 ไฟเขียวปันผลอีกหุ้นละ 0.31 บ.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด