ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

เปิด 5 หุ้นผันผวนต่ำ หลังทรัมป์ขย้ำภาษีนำเข้า

                 หุ้นวิชั่น – บล.เอเอซียพลัส เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด จาก TAX TARIFF 36% หลังจากที่ TRUMP ประกาศเก็บภาษีตอบโต้ทั่วโลก ซึ่งไทยโดนเรียกเก็บภาษีนำเข้า 36%(สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ในอาเซียน) มีผลบังคับใช้ 9 เม.ย.68 โดยสัดส่วนการส่งออกไทยไปสหรัฐฯราว 18% ซึ่งหากการส่งออกจากไทยไป สหรัฐฯ ลดลงทุกๆ 1% จะส่งผลให้มูลค่าส่งออกไทยลดลงราว 1.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน GDP ไทยราว – 0.11% ดังรูปด้านล่าง

                 ขณะที่ในมุมอื่นๆที่น่าจะกระทบต่อไทย คือ มูลค่า FDI มีโอกาสที่จะไม่เพิ่มขึ้นหรือไม่โดดเด่นดังยุค TRUMP 1.0 เนื่องจากTRUMP จงใจขึ้นภาษีทุกประเทศ (การย้ายฐานการผลิตอาจจะไม่มีผล)ซึ่งองค์ประกอบของ GDP ที่มีโอกาส ลดลงทั้งตัวแปร X, I และส่งผลต่อเนื่องถึงตัวแปร C ทำให้เปิด DOWNSIDE ของ GDP GROWTH ปี 2568โดยตัวเลข ของบางสำนักเศรษฐกิจคาดว่า GDP อาจแตะระดับต่ำกว่า 2% ได้ไม่ยาก ซึ่งค่าเฉลี่ยแต่ละสำนักเศรษฐกิจก่อนหน้านี้อยู่ที่ +2.9%YOY ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เสนอว่าแผลการรับมือของไทยมีอยู่ด้วยกัน 2 แนวทาง

1. ไทยพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าแต่ละสินค้าลงให้ไม่เกิน 36% คาดจะทำให้ผลขาดดุลการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-ไทย ลดลง 3200 ล้านเหรียญฯ
2. ไทยเพิ่มปริมาณสินค้านำเข้าเกษตรจากสหรัฐญเพิ่มขึ้น อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื้อสัตว์ แอลกฮอล์ ถั่วเหลือง เศษเนื้อและเครื่องใน เครื่องบิน

                 ประเมินแนวรับทางพื้นฐานที่สำคัญของ SET 1125 – 1140 จุดนักลงทุนเหมือนโดนมีดบาดนิ้ว ด้วยประเด็น TARIFF เช้านี้ แต่ต้องตั้งสติ เพราะนิ้วยังไม่ขาด โดยเบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ประเมินรายได้ของ SET ส่งออกไปสหรัฐราว6.56 แสนล้านบาท หรือราว 3 –4% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนผลกระทบน่าจะจำกัด หากอิงอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น 36% และอัตรากำไรสุทธิที่ 2% –5% จะกระทบ EPS68F ราว 0.5 –1 บาท/ หุ้น

ในมุม DOWNSIDE เชิงพื้นฐาน ฝ่ายวิจัยฯประเมิน VALUATION จากวิธีMEYG ที่สูงสุดช่วง COVID19 ที่ 6.8%แปลงเป็น P/E ที่ต่ำสุด คือ 12.8เท่า หากนำมาคูณกับ EPS67F88 –89 บาท/หุ้น จะได้แนวรับทางพื้นฐานที่สำคัญของ SET INDEX บริเวณ 1125 –1140จุด

กลยุทธ์แนะนำหลีกเลี่ยง หุ้นส่งออก -> อาหาร, เกษตร ยานยนต์ ชินส่วนฯ ชั่วคราว เน้นหุ้น DOMESTIC ผันผวนต่ำ CPALL, BEM, BDMS, WHA, ADVANC **

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลท. ใช้ Ceiling & Floor (+/-30%) เริ่มมีผล 16 เม.ย.68

ตลท. ใช้ Ceiling & Floor (+/-30%) เริ่มมีผล 16 เม.ย.68

ก.ล.ต. กล่าวโทษ หมอบุญ วนาสิน เหตุเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ

ก.ล.ต. กล่าวโทษ หมอบุญ วนาสิน เหตุเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ

กลต. ยกเลิกไม่ให้กลุ่ม NON SET100 เป็นหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้ เริ่ม 16 เม.ย.นี้

กลต. ยกเลิกไม่ให้กลุ่ม NON SET100 เป็นหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้ เริ่ม 16 เม.ย.นี้

NER ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี68 ไฟเขียวปันผลอีกหุ้นละ 0.31 บ.

NER ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี68 ไฟเขียวปันผลอีกหุ้นละ 0.31 บ.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด