ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

เช็กด่วน! หุ้นแบกสต๊อกคอนโด

         หุ้นวิชั่นเหตุการณ์แผ่นดินไหวกระทบหุ้นอะไรบ้าง แน่นอนตามกระแสข่าว ผู้ได้รับความเดือนร้อนมากสุด คือประชาชนที่อาศัยอยู่ในอาคารสูง โดยเฉพาะ คอนโดมิเนียม ดังนั้น หุ้นอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ต้องได้รับผลกระทบ เพราะนั่นคือ ข้อเท็จจริง

         ศูนย์กลางแผ่นดินไหวระดับ 8.2 จากประเทศพม่า ขยายผลการรับรู้เกือบทุกพื้นที่ทั่วถึงประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยเพราะการสั่นไหวรอบกินเวลาที่นานขึ้นนับเป็นนาที ทำให้ธุรกิจที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ เพราะใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว

         ไม่ต่างอะไรกับพื้นที่ใน กทม. ด้วยฐานรากที่เป็นพื้นดินอ่อน จึงได้รับแรงสะเทือนได้อย่างชัดเจน ตึกสูง คอนโดระย้าฟ้า สั่นไหวโยกไปมา น้ำจากสระน้ำของตึกสูงไหลรากลงมาสู่พื้นดิน ดั่งน้ำตก เป็นภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองไทย

         ภาพที่ได้เห็นที่แชร์ ในโลกออนไลน์ ตึกถล่ม ตึกมีรอยร้าว ในพื้นที่ กทม. ย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่า โครงสร้างอาคารในประเทศไทย ยังไม่ได้รองรับเหตุแผ่นดินไหวเท่าที่ควร ดังนั้น สิ่งที่หน่วยงานภาครัฐต้องตรวจสอบ โดยเฉพาะอาคารที่สร้างก่อนปี 2550

         หุ้นอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายได้จากธุรกิจคอนโดมิเนียม ย่อมได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้แน่นอน มาดูกันว่าเบื้องต้น มีหุ้นอะไรบ้าง

         ข้อมูลจากบทวิเคราะห์ของ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่มี สต๊อกคอนโดมิเนียม สร้างเสร็จพร้อมโอนในอัตราที่สูง ประกอบด้วย 4 บริษัทได้แก่ SPALI ,ORI,AP, และANAN ทั้งหมดมีเกินระดับ 1 หมื่นล้านบาท

         ขณะที่ กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่มีแผนออกคอนโดมิเนียมใหม่ ในปี 2568 อาทิเช่น ORI,AP,SIRI,ASW,NOBLE,SPALI,PSH และ ANAN เป็นต้น

         ล่าสุด บริษัท เอพี ไทยแลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP ในปี2567 พบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียม ทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่า 9,850 ล้านบาท อีกทั้งมีโครงการในมือมากกว่า 180 โครงการ และในปี 2568 มีแผนเปิดตัวโครงการมูลค่าราว 65,000 ล้านบาท

         ส่วนหุ้นกลุ่มโรงแรมที่เป็นตึกสูง ด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทย มีข่าวแพร่กระจายไปทั่วโลก ล่าสุดนายกสมาคมโรงแรมไทยมองว่า จะมีนักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพัก ประมาณ 8-10 % ของการจองทั้งหมด แต่เชื่อว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น จากการตื่นตระหนกของนักท่องเที่ยว เกี่ยวกับความปลอดภัยในอาคารที่พักแรม

         กลับมาที่ตลาดหุ้นไทย บล. พาย วิเคราะห์ว่า ผลกระทบจากแผ่นดินไหวยังค่อนข้างจำกัดต่ออาคารสิ่งปลูกสร้างอย่างน้อยก็ยังไม่ได้เห็นอาคารสิ่งปลูกสร้างในกรุงเทพพังถลายลงมาก อาจมีบ้างเช่นสำนักการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แต่ส่วนที่เหลือยังค่อนข้างปกติ แต่คอนโดต่างๆเผชิญกับปัญหารอยแตกร้าวและเสียความเชื่อมั่นจากผู้อาศัย ซึ่งจะกระทบกับอุปสงค์ในอนาคต โดยเฉพาะหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีคอนโดเป็นสัดส่วนรายได้ที่เยอะ

           จากข้อมูลพบว่ามูลค่าเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท โดยที่ตลาดอสังหามูลค่าอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาท ก็อาจพอคำนวนคร่าวๆได้ว่าคิดเป็น 6% ของ GDP หากพิจารณาในเบื้องต้นก็อาจสร้าง Downside ต่อเศรษฐกิจมิได้มากนัก

         กลุ่มท่องเที่ยวก็มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบและมีผลต่อเศรษฐกิจไทย ด้วยเดิมทีความน่าสนใจของประเทศไทยถูกลดเสน่ห์ลงไปบ้างสะท้อนผ่านการมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น้อยลง YTD ขยายตัวเพียง 3% จากปีก่อน 15% และนักท่องเที่ยวจีนกลับเดินทางไปญี่ปุ่นมากกว่าระดับก่อน COVID-19 สวนทางกับไทยที่ยังต่ำกว่าช่วงก่อน COVID-19 เมื่อประกอบกับแผ่นดินไหว อาจทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วนชะลอการมาท่องเที่ยวไทย อย่างไรก็ตามหากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมิได้เกิดขึ้นอีก ก็เชื่อว่าจะกระทบกับการท่องเที่ยวระยะสั้น แต่การจะเติบโตข้างหน้าเป็นอีกปัจจัย

         ดังนั้น การลงทุนกลุ่มได้ประโยชน์อาจมองไปที่ หุ้นค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับซ่อมแซมบ้าน (HMPRO GLOBAL DOHOME) ปูน (SCCC) รวมไปถึงกลุ่มที่ผลกระทบจำกัดอย่างโรงพยาบาล (BDMS) สื่อสาร (ADVANC- TRUE) และควรระมัดระวังในหุ้นอสังหา (ผลกระทบหนักสุด)

การลงทุน มีความเสี่ยง ผู้ลงทุน ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ ลงทุน

ข่าวหัวม่วง และทีมงานหุ้นวิชั่น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

OR ชู “วิชั่น” ยั่งยืนครบสูตร

OR ชู “วิชั่น” ยั่งยืนครบสูตร

JMT ชำระคืนหุ้นกู้ตามนัด 3,000 ลบ. ปีนี้ตั้งเป้าพอร์ตหนี้ 2,000 ลบ.

JMT ชำระคืนหุ้นกู้ตามนัด 3,000 ลบ. ปีนี้ตั้งเป้าพอร์ตหนี้ 2,000 ลบ.

THCOM คว้าโครงการใหญ่ NT  ควบคุมดาวเทียม ไทยคม 4 และ 6

THCOM คว้าโครงการใหญ่ NT ควบคุมดาวเทียม ไทยคม 4 และ 6

KTC ผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผล 1.32 บาท

KTC ผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผล 1.32 บาท

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด