หุ้นวิชั่น – IHL ส่งซิกเดือนมีนาคม ออเดอร์รองเท้าแบรนด์ดังทะลัก 120 ล้านบาท ฟากผู้บริหาร “วศิน ดำรงสกุลวงษ์” ติดสปีดดันยอดผลิตภัณฑ์หนังวัว เร่งขยายฐานทำเงิน แย้มแผนย้ายการผลิตกลับไทยเดือน 7 ชี้ลดต้นทุนหนุนมาร์จิ้นครึ่งปีหลัง 68 ฟู ปักหมุดรายได้โต 10-15% ส่งซิกธุรกิจรองเท้า หรืออุตสาหกรรมแฟชั่นขยายตัวต่อ
นายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า ทิศทางของบริษัทในไตรมาส 1/2568 คาดว่าจะอยู่ในช่วงการประคองหรือทรงตัว เนื่องจากคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จะถูกบุ๊กกิ้งในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าจะมากกว่า 2 เดือนแรกของปี 2567 โดยในช่วงต้นปีมักจะมีวันหยุดปีใหม่และช่วงตรุษจีน ทำให้ออเดอร์บางส่วนถูกเลื่อนมาที่ปลายเดือนกุมภาพันธ์และต้นเดือนมีนาคม
ในเดือนมีนาคม บริษัทมีออเดอร์เข้ามาแล้ว 3-4 ล้านเหรียญดอลลาร์ หรือคิดเป็นมูลค่าเงินไทยประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งเป็นออเดอร์จากกลุ่มลูกค้ารองเท้าแบรนด์ดังระดับโลก เช่น New Balance, Nike, Adidas, Vans, Timberland และกลุ่มค่ายรถยนต์อย่าง Toyota และ Nissan นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการวางแผนขยายฐานลูกค้าและเพิ่มการขายผลิตภัณฑ์หนังวัวให้กับกลุ่มลูกค้าหนังหมู โดยเริ่มเห็นการขยายตัวของลูกค้ากลุ่มนี้อย่างชัดเจน
ในด้านการดำเนินธุรกิจ บริษัทได้รับประโยชน์จากการที่ Wolverine Leather ผู้ผลิตหนังรองเท้าให้กับแบรนด์ระดับโลก เช่น Timberland, Nike, Adidas, New Balance ทำให้บริษัทเริ่มมีออเดอร์ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 โดยจะเน้นการจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าที่ผลิตรองเท้ายี่ห้อดัง พร้อมทั้งพยายามผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์หนังวัวให้มากขึ้น โดยในปัจจุบันมีผู้ผลิตรองเท้าแบรนด์ดัง 2-3 รายที่อนุมัติการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนสำคัญในการย้ายกระบวนการผลิตจากต่างประเทศกลับมาผลิตเองในโรงงานที่ประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกไปยังอเมริกา โดยคาดว่าการย้ายกระบวนการผลิตในครั้งนี้จะช่วยลดต้นทุนและส่งผลให้ อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปี 2568 ดีขึ้น
เบื้องต้นคาดว่า กระบวนการย้ายการผลิตจะแล้วเสร็จและเริ่มเห็นการผลิตในประเทศไทยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ทำให้ภาพรวมของอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) จะเริ่มเห็นตัวเลขที่ชัดเจนในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2568
บริษัทคาดว่าในปี 2568 จะมีการเติบโตของรายได้ที่ 10-15% โดยมาจากการขยายตัวของธุรกิจรองเท้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านขนาดและสีที่หลากหลาย รวมถึงรองเท้าที่วางจำหน่ายทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการใช้หนังในการผลิตรองเท้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนังวัวและหนังหมูสำหรับอุตสาหกรรมรองเท้าจะเติบโตในระดับ 5-10% ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์คาดว่าไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา
อนึ่ง ปี 2567 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 2,624.68 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 57.28 ล้านบาท