ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

IVL ผลงานปี 67 ดีขึ้น กลยุทธ์ IVL 2.0 เสริมแกร่ง

           กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 26 กุมภาพันธ์ 2568บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รายงานผลประกอบการประจำปี 2567 ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่เด็ดขาดของฝ่ายบริหารภายใต้กลยุทธ์ IVL 2.0 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ในการรับมือกับภาวะชะลอตัวของอุตสาหกรรมที่ยืดเยื้อ และกำหนดแนวทางใหม่สำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

           ในปี 2567 อินโดรามา เวนเจอร์ส ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันและเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของยุค โดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น ผลกระทบที่ไม่เท่าเทียมกันของอุตสาหกรรมน้ำมัน (Peak Oil) ระหว่างภูมิภาคตะวันออกและตะวันตก ความมุ่งมั่นของประเทศจีนในการควบคุมการผลิตภายในประเทศ การขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดีย และสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนมากที่สุดในรอบหนึ่งชั่วอายุคน  ในช่วงปีแห่งการปรับตัว การระดมทรัพยากร และการขับเคลื่อนกลยุทธ์ ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนปีแรกของกลยุทธ์ IVL 2.0 ซึ่งมีระยะเวลา 3 ปี ประกาศเมื่อเดือนมีนาคม 2567 โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของสินทรัพย์ทั่วโลก การลดหนี้ เพิ่มกระแสเงินสด และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและโครงการพัฒนาความเป็นผู้นำรุ่นต่อไปมาใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2569

           มาตรการบริหารจัดการเชิงรุกและมีวินัยที่มุ่งเน้น ‘การพึ่งพาตนเอง’ และการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด ช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้ตลอดทั้งปีให้แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ตลาดเคมีภัณฑ์ทั่วโลกยังคงเผชิญกับภาวะหดตัวที่ท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบัน  ท่ามกลางความผันผวนของตลาดนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส รายงาน EBITDA ในปี 2567 จำนวน 1,408 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เมื่อเทียบปีต่อปี และ Adjusted EBITDA1 เท่ากับ 1,522 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบปีต่อปี

           กลุ่มธุรกิจ CPET รายงาน Adjusted EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบปีต่อปี จำนวน 1,012 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปริมาณการขายเติบโตร้อยละ 3 เมื่อเทียบปีต่อปี แบบ like-for-like basis หลังจากปรับตามการตัดสินใจระหว่างการผลิตเอง (make or buy) อันเนื่องมาจากกำลังการผลิต PTA ที่ลดลง ทั้งนี้ ความต้องการผลิตภัณฑ์ปลายทางยังคงอยู่ในระดับคงที่  อย่างไรก็ตาม ภาวะอุปทานล้นตลาดในประเทศจีนยังคงกดดันส่วนต่างราคามาตรฐาน และส่งผลกระทบต่อธุรกิจ PET แบบบูรณาการ (Integrated PET) ขณะที่ธุรกิจสารเคมีขั้นกลางได้รับแรงหนุนจากส่วนต่างกำไรของ MEG ที่ปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าธุรกิจ MTBE จะมีส่วนต่างกำไรที่ลดลงด้วยผลกระทบจากกำลังการผลิตใหม่ของบุคคลที่สามในประเทศสหรัฐอเมริกา  นอกจากนี้ ธุรกิจ Specialty PET มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งช่วยชดเชยอัตรากำไรของธุรกิจ commodity PET ได้เป็นอย่างดี

           กลุ่มธุรกิจ Indovinya บันทึก Adjusted EBITDA อยู่ที่ 352 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 อันเป็นผลจากการปรับตัวของภาวะการระบายสินค้าคงคลัง (normalization of destocking) การปรับปรุงของส่วนผสมการขาย (sales mix) ในภูมิภาคอเมริกาใต้ และการปรับตัวดีขึ้นของ crack margins ในอเมริกาเหนือ

           กลุ่มธุรกิจ Fibers รายงาน Adjusted EBITDA อยู่ที่ 159 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ ร้อยละ 26 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยเป็นผลมาจากมาตรการปรับโครงสร้างธุรกิจของคณะผู้บริหาร การเติบโตของปริมาณการขายในทุกกลุ่มตลาด และการปรับตัวดีขึ้นของส่วนต่างอุตสาหกรรม (industry spreads) ในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์

           มาตรการเชิงรุกของคณะผู้บริหารในการลดต้นทุน ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ และปรับโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงาน มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของผลประกอบการโดยรวม แผนการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ภายใต้กลยุทธ์ IVL 2.0 สามารถลดต้นทุนคงที่เพิ่มเติมได้จำนวน 48 ล้านเหรียญสหรัฐจนถึงปัจจุบัน และคาดว่าจะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการเติบโตของผลประกอบการในปี 2568 มาตรการเหล่านี้ช่วยเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิต ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ทั่วทุกฐานการผลิตของบริษัทฯ ในปี 2567

           อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางแรงกดดันอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรม บริษัทได้พิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องดำเนินมาตรการบริหารเพิ่มเติม นอกเหนือจากมาตรการสำคัญที่ได้ดำเนินการไปแล้วในปี 2567 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง  โดยมาตรการเหล่านี้ ซึ่งบริษัทฯ จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน Capital Markets Day ในวันที่ 5 มีนาคม 2568 รวมถึงการเพิ่มความเข้มข้นในการสร้างกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) และการทบทวนนโยบายทางการเงิน เพื่อลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน และรักษาคำมั่นสัญญาในการลดภาระหนี้ของบริษัทฯ  ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดการณ์ว่าการเติบโตในปี 2568 และ 2569 จะได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการบริหารที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย รายได้จากการขายที่ดินจากสินทรัพย์ที่ได้รับการปรับโครงสร้าง IPO ที่มีแผนดำเนินการ และการขายกิจการบางส่วน โดยรายได้จากธุรกรรมเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เพื่อลดภาระหนี้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ

           เมื่อกล่าวถึงปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าตลาดเคมีภัณฑ์ทั่วโลกจะเผชิญความท้าทาย แต่ผมพอใจกับผลประกอบการโดยรวมและมาตรการบริหารที่เราดำเนินการในปี 2567 ปีนี้เป็นปีที่กำหนดทิศทางใหม่ให้กับเรา—เราได้ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมครั้งสำคัญในรอบหลายทศวรรษ และใช้ประสบการณ์ วิสัยทัศน์ และความมั่นใจในการขับเคลื่อนบริษัทสู่อนาคตผ่านมาตรการเชิงรุกที่เด็ดขาด ขณะนี้ แผนกลยุทธ์ IVL 2.0 ระยะ 3 ปี ดำเนินงานมาเกือบครบหนึ่งปีแล้ว ซึ่งเราได้ยกระดับจากโมเดลการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยการเข้าซื้อกิจการ ไปสู่แนวทางที่ให้ความสำคัญกับวินัยทางการเงินและการสร้างกระแสเงินสด เรากำลังก้าวสู่เส้นทางใหม่ของการสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืนในระยะยาว ผ่านการเติบโตของแต่ละกลุ่มธุรกิจ การสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ทั้งนี้ ในงาน Capital Markets Day ประจำปีของเรา ผมตั้งตารอที่จะแชร์ความคืบหน้าของกลยุทธ์ IVL 2.0 และทิศทางการเติบโตในอนาคต”

1 (หมายเหตุ: ข้อมูลทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วเป็นตัวเลขก่อนการปรับปรุงกำไร/ขาดทุนจากสินค้าคงคลังและรายการพิเศษ รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ในรายงาน MD&A ของบริษัท)

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลท. ใช้ Ceiling & Floor (+/-30%) เริ่มมีผล 16 เม.ย.68

ตลท. ใช้ Ceiling & Floor (+/-30%) เริ่มมีผล 16 เม.ย.68

ก.ล.ต. กล่าวโทษ หมอบุญ วนาสิน เหตุเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ

ก.ล.ต. กล่าวโทษ หมอบุญ วนาสิน เหตุเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ

กลต. ยกเลิกไม่ให้กลุ่ม NON SET100 เป็นหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้ เริ่ม 16 เม.ย.นี้

กลต. ยกเลิกไม่ให้กลุ่ม NON SET100 เป็นหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้ เริ่ม 16 เม.ย.นี้

NER ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี68 ไฟเขียวปันผลอีกหุ้นละ 0.31 บ.

NER ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี68 ไฟเขียวปันผลอีกหุ้นละ 0.31 บ.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด