หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คงคำแนะนำ Buy สำหรับ AMARC เนื่องจาก 1) คาด 4Q24F กำไรสุทธิ ดีกว่าคาดเดิม จากบริการ Testing เติบโตดี 2) ปรับกำไรสุทธิปี 24F-26F ขึ้น 19%-20% สะท้อนเป้าหมายการเติบโตของบริษัทและโอกาสเติบโตจากการขยายขอบข่ายให้บริการ 3) คาดปี 25F-26F กำไรสุทธิเติบโต +12%CAGR นอกจากนี้ราคาหุ้นซื้อขายเทียบเท่า Forward PE ต่ำกว่า -2.0SD และ PBV 0.9 เท่า ซึ่งไม่สมเหตุผลเมื่อเทียบกับแนวโน้มการเติบโตของบริษัท
ทิศทาง 4Q24F ดีกว่าคาดเดิม จากบริการตรวจวิเคราะห์ (Testing)
ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองบวกต่อ 4Q24F คาดกำไรสุทธิ 9 ลบ. (+4,757%y-y -47%q-q) เติบโตสูง y-y เนื่องจาก 1) คาดรายได้จากบริการรวม (+20%y-y -10%q-q) เติบโตจากบริการตรวจวิเคราะห์ (Testing) และบริการสอบเทียบเครื่องมีปริมาณงานเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลบวกจากผลผลิตลำไยและทุเรียนของกลุ่มลูกค้าส่งออกเพิ่มขึ้น 2) คาด Gross margin 37% ดีขึ้น y-y จากบริการ Testing (margin เฉลี่ยเกิน 40%) มีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้น และมี economies of scale จากปริมาณงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้กำไรสุทธิคาดลดลง q-q เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาลที่มีปริมาณงานลดลง
เป้าหมายปี 2025 รายได้ให้บริการเติบโตเกิน 10% และ Net margin ดีขึ้น
ในปี 2025 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายรายได้จากบริการรวมเติบโตเกิน 10% y-y และ Net margin ดีขึ้น (vs ปี 24F คาด Net margin 11%) ปัจจัยผลักดัน 1) บริการตรวจวิเคราะห์ (Testing) ผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารมีปริมาณงานเพิ่มขึ้นจากการขยายขอบข่ายบริการตรวจวิเคราะห์ 2) บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง
ฝ่ายวิเคราะห์ปรับกำไรสุทธิปี 24F-26F ขึ้น 19%-20% เป็น 38 ลบ. (เดิม 32 ลบ.) / 42 ลบ. (เดิม 35 ลบ.) / 48 ลบ. (เดิม 40 ลบ.) ตามลำดับ เนื่องจาก 1) ปรับสมมติฐานรายได้บริการ Testing ขึ้น +6% ต่อปี สะท้อนเป้าหมายการเติบโตของบริษัท และโอกาสเติบโตจากการขยายขอบข่ายให้บริการเพิ่มขึ้น 2) ปรับสมมติฐาน Gross margin ปี 2025F-26F ขึ้นเป็น 40.5% (เดิม 40.3%) จากคาดมี economies of scale ของปริมาณงานเพิ่มขึ้น
แนะนำ Buy คาดปี 25F เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ซื้อขาย PBV 0.9 เท่า
ฝ่ายวิเคราะห์ คงคำแนะนำ Buy สำหรับ AMARC ประเมินราคาเป้าหมายปี 25F ที่ 2.00 บาท วิธี DCF WACC 8.1% คิดเป็น Imply PE ปี 25F ที่ 20 เท่า เทียบเท่า Forward PE +2.0SD ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่า -2.0SD และ 0.9 เท่าของมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น ซึ่งมองว่าไม่สมเหตุผลเมื่อเทียบกับแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิต่อปี +12%CAGR ปี 2025F-26F ประกอบกับไม่เห็นความเสี่ยงต่อปัจจัยพื้นฐานที่จะแย่ลงจนเป็นผลขาดทุน รวมทั้งคาดมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 4% ต่อปี