หุ้นวิชั่น – K ฉายภาพธุรกิจปี 68 สดใส รอชิงงานในไปป์ไลน์ 500 ล้านบาท จับตางาน Interior ทยอยออกเพียบ ส่วน Exhibition & Events จัดทัพลุยลักชัวรี , Pop up ทำยอด ด้านผู้บริหาร “วงศกร พิเศษสิทธิ์” ตั้งเป้ารายได้แตะพันล้านบาท พร้อมรักษา Gross Profit Margin ระดับ 25%
นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้จัดการด้านสื่อสารองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) หรือ K เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในปี 2568 ยังคงมีทิศทางที่ดี แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะยังไม่สดใส แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การก่อสร้าง และการเปิดห้างสรรพสินค้าสาขาใหม่ยังคึกคัก รวมถึงการรีโนเวทพื้นที่ส่วนกลางในโรงแรมหลายแห่งที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณงานในปี 2568 ค่อนข้างคึกคัก
ขณะเดียวกัน งานในกลุ่ม Exhibition & Events (MICE Industries) ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปี 2568 คาดว่าจะคล้ายกับปี 2567 ที่ผ่านมา และคาดจะเติบดตทั้งสองส่วน ทั้ง ธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interior) และ งาน Exhibition & Events
ปัจจุบันบริษัทมีงานในไปป์ไลน์รวมมูลค่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยงานรีโนเวทพื้นที่ส่วนกลาง (Public Area) และงานออกแบบ Lounge โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 บริษัทได้รับงานแล้ว 1 โครงการ มูลค่า 100 ล้านบาท และเตรียมรู้ผลการประมูลงานใหม่เร็วๆ นี้อีก 1 โครงการ มูลค่า 100 ล้านบาท
สำหรับปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมที่ 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับรายได้จากกลุ่มงาน Interior Design ประมาณ 20-25% หรือ 200-250 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมาจากกลุ่ม Exhibition & Events (MICE) 80% หรือ 800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายในการหางานใหม่เพิ่มเติม เพื่อเติม Backlog ให้ได้เป็น 400 ล้านบาท ทั้งนี้ หากเป็นไปตามแผนและได้รับงานใหม่เข้ามาตามที่กำหนด คาดว่า Backlog จะถูกรับรู้เป็นรายได้ในครึ่งปีแรกของปี 2568 ราว 200 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะถูกรับรู้รายได้ในปี 2569
นอกจากการตั้งเป้ารายได้ในปี 2568 ที่ 1,000 ล้านบาทแล้ว บริษัทยังจะมุ่งเน้นที่การปรับปรุงอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพื่อสร้างผลกำไรให้ได้ตามเป้าหมาย โดยจะคัดเลือกโครงการที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ในกรอบที่กำหนด เพื่อผลักดันผลงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน เบื้องต้น บริษัทตั้งเป้าหมายในการทำ Gross Profit Margin โดยรวมให้อยู่ในระดับ 20-25% ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินธุรกิจในปี 2568 และสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ผู้ถือหุ้น
กลุ่มงาน Exhibition & Events ในปี 2568 จะเป็นปีที่ท้าทายและอิ่มตัว หากจะเติบโตได้จะต้องเน้นการจัดงานขนาดใหญ่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าในปี 2568 กลุ่มงานนี้จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งเป็นการเติบโตที่คล้ายกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะงานในตลาดลักชัวรี และงานแบรนด์ขนาดใหญ่ที่จัด Pop up ซึ่งคาดว่าจะมีงานจำนวนมากในช่วงต้นปีและท้ายปี
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตในกลุ่ม Exhibition & Events บริษัทอาจจะต้องขยายทีมงาน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีทีมงานไม่มาก ทำให้การขยายตัวในกลุ่มนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
กลุ่มงาน Event เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าจับตามอง โดยบริษัทได้ตั้งทีมและเริ่มงานในกลุ่มนี้มาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และสามารถสร้างรายได้จากงาน Event ได้ประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปี 2568 กลุ่มงาน Event จะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากมีโอกาสขยายตัวในตลาดที่มีความต้องการสูง
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision