หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.หยวนต้า ระบุ Siam City Cement (SCCC) คาดกำไรปกติ 4Q24 ประคองตัว คาดกำไรปกติจากธุรกิจเดิมประคองตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อน คาดกำไรปกติจากธุรกิจเดิมใน 4Q24 จะทำได้ 821 ล้านบาท (ทรงตัว QoQ, -7% YoY) เมื่อเทียบกับ 3Q24 คาดประคองตัว QoQ สาระสำคัญดังนี้
- ประเมินธุรกิจในประเทศไทยจะทรงตัวถึงชะลอตัว QoQ เนื่องจากปัจจัยบวกตามฤดูกาล และไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุงเตาเผาปูนซีเมนต์ ถูกชดเชยด้วยการประมูลงานก่อสร้างภาครัฐช่วงต้นไตรมาสยังล่าช้า (เริ่มเห็นอานิสงส์บวกช่วงเดือนธ.ค.), สภาพอากาศแปรปรวนในภาคเหนือ – อีสาน, กำลังซื้อชะลอตัวจากภาระหนี้ครัวเรือนสูง, ภาคขนส่งเข้าสู่เทศกาลวันหยุด
- ธุรกิจในเวียดนามประคองตัว โดยอุปสงค์จากการก่อสร้างภาครัฐถูกชดเชยด้วยโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ภาคเอกชนที่ทยอยแล้วเสร็จ และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ
- ธุรกิจในศรีลังกา แม้อุปสงค์จะทยอยดีขึ้นหลังผ่านช่วงเลือกตั้งเดือนพ.ย. แต่ปัจจัยบวกถูกชดเชยบางส่วนจากเหตุการณ์พายุมรสุม และการแข่งขันรุนแรง
- ธุรกิจในบังกลาเทศยังอ่อนแอจากปัญหาการเมือง และสภาพอากาศแปรปรวน
- ธุรกิจในกัมพูชาได้รับผลกระทบจากฤดูมรสุม และการแข่งขันรุนแรงจากผู้ผลิตรายใหม่
- การรับรู้กำไรจาก LANNA ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น
คาดการณ์ 4Q24 ยังไม่รวมรายการทางบัญชีหลังเปลี่ยนสถานะ LANNA และ TAE หาก 4Q24 เป็นไปตามคาด กำไรสุทธิทั้งปี 2024 จะใกล้เคียงกับประมาณการของเราที่ 3.7 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ประมาณการ 4Q24 และปี 2024 ของเรายังไม่รวมโอกาสบันทึกกำไร/ขาดทุนจากการเปลี่ยนสถานะทางบัญชี (Reclassification) ของ LANNA และ TAE (จากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย) เนื่องจากการทำ Tender Offer เดือนต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ SCCC มีสัดส่วนถือหุ้นเพิ่มเป็น 61.4% และ 4.7% ตามลำดับ (เดิมถือหุ้น 45% และ 4.7% ตามลำดับ โดย LANNA ถือ TAE สัดส่วน 51%) ซึ่งการเปลี่ยนสถานะทำให้ SCCC ต้องวัดมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุนดังกล่าวใหม่
ปี 2025 ดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
คาดหวังการดำเนินงานในประเทศไทยเป็นหลัก แนวโน้มปี 2025 ดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป คงประมาณการกำไรสุทธิที่ 3.9 พันล้านบาท โดยแม้ธุรกิจในต่างประเทศอาจเผชิญกับการแข่งขันจากผู้ผลิตรายใหม่จากจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปรับราคาขาย อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นจากอานิสงส์อนุมัติงบประมาณ ทำให้การก่อสร้างภาครัฐขยายตัว, ประโยชน์จากโอกาสการปรับลดค่าไฟฟ้า, การเพิ่มสัดส่วนเชื้อเพลิงทางเลือก, กลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์นวัตกรรม และคาร์บอนต่ำ (Margin สูง และช่วยลดผลกระทบของการแข่งขันที่รุนแรง) นอกจากนี้ ยังรับรู้ประโยชน์จากการรวมงบการเงินของ LANNA และ TAE ตามสัดส่วนถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นเต็มปี (ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ)
โมเมนตัมกำไรเร่งตัวตามฤดูกาล พร้อมคาดเงินปันผลน่าสนใจ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ที่ 185.00 บาท จากโมเมนตัมกำไรเร่งตัวตามปัจจัยฤดูกาลใน 1Q25 และคาดการณ์เงินปันผลงวด 2H24 น่าสนใจระดับ 5.00 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield สูง 3.1% (คาดประกาศงบการเงินวันที่ 27 ก.พ.)