ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

HENG คาดดค้งท้ายฟื้นตัวต่อ ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเกษตรโตทะลุ5%

           ‘บมจ. เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล’ หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ ‘เฮงลิสซิ่ง’ ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 มีรายได้รวม 696 ล้านบาทเติบโตลดลง 6% แต่กลับมาทำกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 168% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการเพิ่มรัดกุมการปล่อยสินเชื่อใหม่ ติดตามหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมควบคุมค่าใช้จ่ายในการเนินงานอย่างรัดกุม ประเมินไตรมาส 4/2567 ฟื้นตัวต่อเนื่อง ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเพื่อการเกษตรเติบโต 5% ภายในปี 2568

           นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ ‘เฮงลิสซิ่ง’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้ 696 ล้านบาท เติบโตลดลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และกลับมาทำกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท เติบโต 168% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยหลักมาจากการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการบริหารความเสี่ยงด้านการปล่อยสินเชื่อใหม่อย่างเข้มงวด การควบคุมคุณภาพสินเชื่อ การติดตามหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ส่งให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ พลิกกลับมาทำกำไรได้ตามเป้าหมาย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการความเสี่ยง ความสามารถรักษาเสถียรภาพทางการเงิน เพื่อสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่พอร์ตสินเชื่อในไตรมาสนี้ยังอยู่ในระดับที่ทรงตัว จากการดำเนินนโยบายเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อใหม่ อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของการปล่อยสินเชื่อใหม่ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถนำกระแสเงินสดไปชำระเงินกู้จากสถาบันการเงินล่วงหน้า ทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้ดียิ่งขึ้น

           สำหรับอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) แม้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 5% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่บริษัทฯ เชื่อมั่นว่ายังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ และเป็นสัญญาณการชะลอตัวของ NPLs โดยบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อใหม่แก่กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุม NPLs ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

           ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/2567 จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้าเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ จะเริ่มกลับมาทำการเกษตรภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย จะช่วยผลักดันการเติบโตของบริษัทฯ รวมทั้งจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยและการทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนจะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจ เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด

           ล่าสุด บริษัทฯ ยังได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2567 (CGR 2024) ให้อยู่ในระดับ “ดีเลิศ (Excellent)” หรือ 5 ดาว เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ประจำปี 2567 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดูแลรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

           “แม้ภาพรวมตลาดสินเชื่อยังคงมีความท้าทาย แต่บริษัทฯ มุ่งเน้นกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ เร่งรัดการติดตามหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่อเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพเพิ่มสัดส่วนเป็น 5% ภายในปี 2568 นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว” นายวิชัย กล่าว

[PR News]

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

[Vision Exclusive] PLANB จ่อบุ๊กงาน VGI ไร้ปมสมาคมฟุตบอล

[Vision Exclusive] PLANB จ่อบุ๊กงาน VGI ไร้ปมสมาคมฟุตบอล

BA เป้าผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน บินเส้นทางฮอต - มาร์จิ้นสูง

BA เป้าผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน บินเส้นทางฮอต - มาร์จิ้นสูง

ORI จัด 2,965 ลบ. จ่ายหุ้นกู้ครบ  Q1 คอนโดรอโอน 5,600 ลบ.

ORI จัด 2,965 ลบ. จ่ายหุ้นกู้ครบ Q1 คอนโดรอโอน 5,600 ลบ.

ทรีนีตี้ ปี 67 พลิกกำไร เดินหน้าปรับโครงสร้างทุนเสริมแกร่ง

ทรีนีตี้ ปี 67 พลิกกำไร เดินหน้าปรับโครงสร้างทุนเสริมแกร่ง

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด